เปิดภาพหายากอุทยานแม่วงก์ พบแม่เสือโคร่งพร้อมลูกน้อย และกระทิงกลับมาในรอบ 40 ปี

ผลงานวิจัยโครงการฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งฯ พบภาพแม่เสือโคร่ง พร้อมลูก และการกลับมาของกระทิงในรอบ 40 ปี สะท้อนความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ และความสำเร็จของงานลาดตระเวนเชิงคุณภาพ

นายเนรมิต สงแสง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เปิดเผยเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2565 ว่า งานวิจัยโครงการฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งและเหยื่อในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ อุทยานแห่งชาติคลองลาน และอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า ล่าสุดผลจากการติดตามประชากรเสือโคร่งและสัตว์ป่าโดยกล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติ (Camera Trap Survey) จำนวน 94 จุด พบการกระจายของเสือโคร่งตัวเต็มวัยกระจายเต็มพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จำนวน 14 ตัว 

ประกอบด้วย เป็นเพศผู้ 6 ตัว เพศเมีย 8 ตัว และลูกเสือโคร่ง 2 ตัว เฉลี่ยประมาณ 54.50% ของจำนวนจุดติดตั้ง คิดเป็นความหนานแน่น (ตัว/100 ตร.กม.) เท่ากับ 0.63 (≈ 1) และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ยังพบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น ๆ ทั้งหมด 35 ชนิด เช่น ช้างป่า เสือดาว เสือลายเมฆ เสือไฟ แมวดาว หมีหมา หมาใน หมาจิ้งจอก ชะมดหางปล้อง อีเห็นหน้าด่าง วัวแดง กระทิง กวางป่า เลียงผา หมูป่า เก้งธรรมดา เป็นต้น ซึ่งจัดจำแนกอยู่ในบัญชี IUCN Red List ด้วย 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่ผ่านมา ทีมนักวิจัยได้เข้าเก็บกู้เมมโมรี่กล้องดักถ่ายที่ติดตั้งไว้ในพื้นที่ ที่ถ่ายภาพแม่เสือโคร่ง รหัส MKF13 พร้อมด้วยลูกเสือ 2 ตัว ไว้ได้ ซึ่งเป็นภาพที่เห็นได้ไม่บ่อย อีกทั้งภาพวัวแดงที่กลับมาตั้งถิ่นฐานอาณาเขตหากินกระจายพันธุ์ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ หลังจากที่หายไปจากป่าแม่วงก์นานกว่า 40 ปี 

ถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพ กอรปกับนโยบายสำคัญของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่กำลังเสนอป่าผืนนี้ให้ผนวกเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติร่วมกับทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง ดังคำกล่าวที่ว่า “แม่วงก์ป่าแห่งความหวัง” 

อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา มีกรอบระเบียบวิธีวิจัยซึ่งประกอบด้วย การติดตามประชากรเสือโคร่งและสัตว์ป่าโดยกล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติ (Camera Trap Survey) การปรับปรุงและฟื้นฟูถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและแผนการปล่อยสัตว์กีบคืนสู่ธรรมชาติ (Wildlife Reintroduce) การส่งเสริมระบบลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (Smart Patrol System) อย่างมีประสิทธิภาพ และประชาสัมพันธ์และสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ของชุมชนและโรงเรียนรอบพื้นที่

วัตถุประสงค์เพื่อประเมินสถานการณ์การกระจายของประชากรเสือโคร่งและเหยื่อในพื้นที่ศึกษา, ปรับปรุงและฟื้นฟูถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า รวมทั้งดำเนินการปล่อยคืนสัตว์กีบขนาดใหญ่สู่ธรรมชาติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการกระทำผิดกฎหมายโดยสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนทุกภาคส่วนในการจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 

นอกจากนี้ เพื่อศึกษาวิจัยการกระจายและความมากมายของประชากรของเสือโคร่งและเหยื่อ เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการจัดการทางด้านงานป้องกันและการจัดการสัตว์ป่าในพื้นที่ รวมถึงการสนับสนุนระบบการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ทั้งทางด้านทฤษฎีและด้านการปฏิบัติงานให้ได้มีความรู้ความสามารถในการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ในการลาดตระเวน และเพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแก่ประชาชน

สำหรับโครงการดังกล่าวทางอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ได้ร่วมกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานประเทศไทย (WWF Thailand) โดยมี ดร.รุ้งนภา พูลจำปา หัวหน้าโครงการฯ 

Related posts

มหาอำนาจโลกในมือ ‘ทรัมป์’ จุดจบการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศ?

โลกจมกองพลาสติก ต้องเปลี่ยนวิธีผลิต ลดการบริโภค กำจัดอย่างยั่งยืน

อุณหภูมิทะลุ 3.1°C แผนลดก๊าซเรือนกระจกในปี 2030 เป็นเรื่องเพ้อฝัน