เฝ้าระวังอิทธิพลพายุ ‘โนรู’เตรียมรับมือน้ำท่วม29 ก.ย. – 1 ต.ค. 65

กรมชลประทาน โดยศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา (วันที่ 27 ก.ย. 65) ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,155 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 2.40 เมตร แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ก่อนปริมาณน้ำนี้จะไหลไปรวมกับน้ำที่มาจากเเม่น้ำสะแกกรังผ่านสถานีวัดน้ำ Ct.19 จ.อุทัยธานี วัดได้ 221 ลบ.ม./วินาที ส่วนพื้นที่ตอนล่างที่สถานีวัดน้ำ C.29A อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 2,296 ลบ.ม./วินาที

ช่วงที่ผ่านมามีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาด้านท้าย 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) ปริมาณน้ำเหนือจากแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนไหลมาสมทบกับแม่น้ำสะเเกกรังและลำน้ำสาขา ลงสู่บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น

ประกอบการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องพายุไต้ฝุ่นโนรู (NORU) ที่มีโอกาสเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงวันที่ 28 ก.ย. 65 อาจทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางและตอนล่าง มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ก่อนจะเคลื่อนตัวมายังบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดยจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 65

กรมชลประทานจึงจะบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพน้ำฝน – น้ำท่า ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในระยะนี้ โดยได้ปรับการระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราไม่เกิน 2,100 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 27 ก.ย. พร้อมกับใช้ระบบชลประทานในพื้นที่ตอนบนพร่องน้ำในเกณฑ์ที่เหมาะสม และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำให้น้อยที่สุด

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (27 ก.ย.65) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 55,078 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 72 ของความจุอ่างฯ ยังสามารถรับน้ำได้อีก 21,030 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 16,307 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 66 ของความจุอ่างฯ สามารถรับน้ำได้อีก 8,564 ล้าน ลบ.ม.

ด้าน กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัยเรื่องพายุโนรู วันที่ 27 ก.ย. 65 พายุมีศูนย์กลางออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 380 กิโลเมตร จากเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 156 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนกลางในวันที่ 28 ก.ย. และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและจะเคลื่อนผ่านลาวตอนล่าง และเข้าสู่ภาคอีสานตอนกลางและตอนล่างของประเทศในวันที่ 29 ก.ย. นี้ จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น

ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่งกับมีลมแรงบริเวณภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และภาคใต้ จึงขอให้เฝ้าระวังตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.ถึง 1 ต.ค. 65 และสามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th

Related posts

จัดเดิน-วิ่ง มินิมาราธอน ปีที่ 2 ส่งต่อขาเทียมช่วยผู้พิการยากไร้

‘COP-19’ ดันอาเซียน เป็นภูมิภาคปลอด หมอกควัน

5 ปีอุณภูมิโลกส่อทะลุ 1.5 องศา ไทยเร่งรับมือ 6 สาขาเสี่ยงระดับพื้นที่