น้ำยังท่วมอ่วม 10 จังหวัด ริมฝั่งลำน้ำยมยกของขึ้นที่สูงด่วน

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือนระดับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยระดับการแจ้งเตือนภัย ระดับ 3 เสี่ยงอันตราย (สีเหลือง) ทั้งนี้จากการติดตามสถานการณ์น้ำบริเวณสถานี Y.33 อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย สูงกว่าตลิ่ง 79 เซนติเมตร มีน้ำกัดเซาะถนนขาดบริเวณแนวริมแม่น้ำบริเวณบ้านวังใหญ่ ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยริมฝั่งแม่น้ำยม เฝ้าระวัง และติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ในช่วงเช้าของวันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา แขวงทางหลวงสุโขทัย ประกาศว่า เตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย โดยสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สุโขทัย ยังเพิ่มสูงขึ้น เพราะน้ำจำนวนมากไหลมาจาก จ.แพร่ ทำให้เมื่อวันที่ 1 ต.ค.น้ำในแม่น้ำยมไหลผ่านประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ อ.สวรรคโลก มากกว่า 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคาดว่ามวลน้ำทั้งหมดจะไหลท่วมเมืองสุโทัย ในช่วงบ่ายวันที่ 2 ต.ค. จึงขอให้ประชาชนเตรียมรับสถานการณ์

อย่างไรก็ตาม นายสุชาติ  ทีคะสุข ผู้ว่าฯ สุโขทัย ระบุว่า ได้รับรายงานจากโครงการชลประทานสุโขทัยว่าจะมีมวลน้ำไม่ต่ำกว่า 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีมาถึงสุโขทัยภายในเย็นวันนี้ (2 ต.ค.) โดยสามารถตัดยอดน้ำที่ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์เพื่อระบายลงแม่น้ำยมสายเก่าและแม่น้ำน่านได้สูงสุด 450 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ยังคงมีมวลน้ำมากเกินศักยภาพลำน้ำยม

โดยเฉพาะพื้นที่ตอนล่างของประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ ตั้งแต่ อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.เมืองสุโขทัย และจุดวิกฤติยังคงอยู่ที่ ต.ราวต้นจันทน์ อ.ศรีสำโรง ต.ปากแคว อ.เมือง

ประกอบกับเมื่อเวลา 12.00 น. ที่ผ่านมา เกิดเหตุมวลน้ำน้ำกัดเซาะถนนแนวริมแม่น้ำยมบริเวณบ้านวังใหญ่ ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง ชำรุดเป็นแนวยาว กระแสน้ำยมพัดเข้าท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็วจนทำให้ระดับน้ำที่ไหลผ่านเมืองสุโขทัยลดระดับลงต่ำกว่าตลิ่ง 78 เซนติเมตร  จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยริมฝั่งแม่น้ำยม เฝ้าระวัง เตรียมความพร้อม และติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด หากต้องการความช่วยเหลือแจ้งสายด่วน 1784 หรือ ไลน์ “ปภ. รับแจ้งเหตุ 1784” (ID:@1784DDPM)

ด้าน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สรุปสถานการณ์ฝนตกหนักระหว่างวันที่ 26 ก.ย. – 2 ต.ค. 2566 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 28 จังหวัด รวม 95 อำเภอ 322 ตำบล 1,365 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 24,423 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 10 จังหวัด 58 อำเภอ 232 ตำบล 1,037 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 20,590 ครัวเรือน ได้แก่ จ.ลำพูน เชียงใหม่ ลำปาง แพร่ ตาก สุโขทัย กาฬสินธุ์ ยโสธร อุบลราชธานี และปราจีนบุรี

ก่อนหน้านี้กรมชลประทานได้สั่งเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและให้เตรียมรับมือฝนตกหนักอีกระลอก ช่วงวันที่ 3 – 7 ต.ค. นี้ ตามประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำหลากดินถล่ม และน้ำล้นตลิ่ง” ซึ่งจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ได้แก่

  • ให้ระวังน้ำหลาก ดินถล่ม ได้แก่ จ.เชียงใหม่ ตาก กำแพงเพชร ลำพูน แพร่ และลำปาง เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำ ได้แก่ แม่น้ำวัง อ.สามเงา และบ้านตาก จ.ตาก
  • แม่น้ำยม อ.สวรรคโลก ศรีนคร ศรีสำโรง ศรีสัชนาลัย ทุ่งเสลี่ยม และ อ.เมืองสุโขทัย
  • แม่น้ำเจ้าพระยา คาดการณ์จะมีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นอยู่ในเกณฑ์ 1,200 – 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีโดยจะส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1 – 1.5 เมตร

ภาพจาก: เพจกรมชลประทาน

Related posts

เป้าหมาย NDC ความมุ่งมั่นของไทย ก้าวย่างสู่ Net Zero และโลกยั่งยืน

COP29 มุ่งมั่นเป้าหมายทางการเงินใหม่ ชาติพัฒนาแล้วจ่าย 1 แสนล้าน

‘เฉลิมชัย’ พาหมูเด้งบุก COP29 เปิด Thailand Pavilion โชว์แก้โลกเดือด