‘ทรัฟเฟิล’ ราชาเห็ด ผลผลิตจากระะบบนิเวศที่เลียนแบบไม่ได้

หลายคนคงเคยสงสัยทำไมเมนูที่ใส่เห็ดทรัฟเฟิลถึงมีราคาแพงกว่าเมนูเดียวกันที่ใช้วัตถุดิบอื่น และชิ้นเห็ดที่ได้มาก็ฝานมาเป็นแค่แผ่นบางๆวางไว้บนอาหาร

ด้วยกลิ่นและรสชาติอันเป็นเอกลักษ์ของเห็ดทรัฟเฟิล หรือราชาแห่งเห็ด ทำให้เชฟระดับโลกยกย่องให้มันเป็นวัตถตุดิบชั้นสูง ที่ส่วนมากจะพบในเมนูอาหารฝรั่งเศสและอาหารอิตาลี รวมไปถึงอาหารญี่ปุ่น

เห็ดทรัฟเฟิลมีมากกว่า 40 สายพันธุ์ที่พบบนโลก แต่ที่นำมาใช้ในการประกอบอาหารมีอยู่ 2 ชนิด คือ เห็ดทรัฟเฟิลขาว และ เห็ดทรัฟเฟิลดำ มันเติบโตอยู่ใต้ดินในป่าที่กลางคืนมีอากาศหนาวเย็น มีความชื้นสูงในวันที่อากาศอบอุ่น และดินมีค่า pH อยู่ระหว่าง 7.5 ถึง 8.3 ซึ่งพบได้ในป่าแทบยุโรปเมดิเตอร์เรเนียน อเมริกาเหนือ อเมริกาตะวันตก และออสเตรเลีย 

เห็ดทรัฟเฟิล (fruiting body) เป็นองค์ประกอบหนึ่งของเชื้อรา ascomycete ที่อยู่ใต้ดิน เติบโตได้ดีจากความสัมพันธ์ทางชีวภาพระหว่างเชื่อรากับรากต้นไม้ โดยเฉพาะ ต้นโอ๊ก ต้นเบิร์ช ต้นป็อปลาร์ ต้นเฮเซล ต้นสน ต้นฮอร์นบีม เพราะต้นเหล่านี้ที่เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตให้กับมัน ในทางกลับกันพวกมันก็ให้สารอาหารและแร่ธาตุต่างๆ เช่น โพแทสเซียม กำมะถัน คลอไรด์ กับต้นไม้นั้นๆด้วย ดังนั้นเห็ดทรัฟเฟิลจึงมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ

เนื่องจากเห็ดทรัฟเฟิลต้องการสภาวะที่สมบูรณ์ในการเจริญเติบโต การเพาะเห็ดทรัฟเฟิลให้ได้กลิ่นและรสชติสมบูรณ์เหมือนธรรมชาติจึงเป็นไปได้ยาก สตีเฟน ปาร์กเกอร์ เชฟจากร้านอาหารในนิวยอร์กเคยกล่าวไว้ว่า “แม้ในสภาวะที่สมบูรณ์แบบที่สุด เราก็ไม่สามารถบังคับธรรมชาติให้งดงามดั่งต้องมนต์ได้”

การค้นหาเห็ดทรัฟเฟิลก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเช่นกัน เพราะมันอยู่ใต้ดินเกือบ1ฟุต ต้องอาศัยสัตว์ที่ได้รับการฝึกฝนโดยเฉพาะเพื่อค้นหา กล่าวว่าหมูตัวเมียเคยถูกใช้เพื่อล่าเห็ดทรัฟเฟิล เนื่องจากพวกมันมีประสาทรับกลิ่นที่ยอดเยี่ยมในการเข้าถึง ด้วยเห็ดทรัฟเฟิลมีกลิ่นแอนโดรสเตนอลซึ่งเป็นฮอร์โมนที่พบในน้ำลายของหมูตัวผู้ แต่ปัญหาคือหมูชอบกินเห็ดทรัฟเฟิล มนุษย์เราจึงหันมาฝึกสุนัขให้ล่าเห็ดทรัฟเฟิลแทน

อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทรัฟเฟิลมีราคาแพงมาก คือพวกมันสูญเสียรสชาติและกลิ่นอย่างรวดเร็ว โดยธรรมชาติเมื่อเห็ดทรัฟเฟิลถูกขุดออกมามันจะเริ่มย่อยสลายทันที และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเห็ดทรัฟเฟิลจึงมีอายุการเก็บรักษาที่จำกัด อย่างเช่นเห็ดทรัฟเฟิลดำมีอายุหนึ่งสัปดาห์หรือสูงสุดสองสัปดาห์ ในขณะที่เห็ดทรัฟเฟิลขาวยังคงใช้งานได้เพียงสี่ถึงห้าวันเท่านั้น

ผลผลิตตามธรรมชาติที่มีจำกัด การค้นหาที่ต้องใช้ความพยายาม และอายุการเก็บรักษาที่สั้นล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เห็ดทรัฟเฟิลมีราคาแพงมาก ถึงแม้จะมีการถนอมไว้ด้วยการแช่แข็ง แต่ก็ต้องแลกมากับการสูญเสียกลิ่นและรสชาติที่ดีที่สุดของมันไป

อ้างอิง

January 6, 2023, “They smell like garlic but sell like diamonds — what are truffles?” Zmescience

January 14, 2023, “Why Truffles Are One of the Most Expensive Foods on the Planet.” Eat this Not that

 

Related posts

มหาอำนาจโลกในมือ ‘ทรัมป์’ จุดจบการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศ?

โลกจมกองพลาสติก ต้องเปลี่ยนวิธีผลิต ลดการบริโภค กำจัดอย่างยั่งยืน

อุณหภูมิทะลุ 3.1°C แผนลดก๊าซเรือนกระจกในปี 2030 เป็นเรื่องเพ้อฝัน