พบ ‘หินรูปองคชาต’ อุปกรณ์ลับคมอาวุธในการปฏิวัติครั้งรุนแรงในยุโรป

นักโบราณคดีพบหินแกะสลักเป็นรุปองคชาตขนาด 6 นิ้ว ขณะขุดค้นบริเวณรอบหอคอยเมรา (Torre de Meira) ในเมืองรีอาเดบีโก ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศสเปน

Darío Peña ผู้เชี่ยวชาญหนึ่งในทีมขุดค้นพบหินดังกล่าว ระบุว่าจากการวิเคราะห์วัสดุอย่างละเอียดทำให้พบร่องรอยการใช้วัตถุที่สามารถตีความได้ว่าคือ ‘หินลับคม’ ซึ่งใช้สำหรับลับคมอาวุธในการปฏิวัติครั้งรุนแรงช่วงศตวรรษที่14-15

หินแกะสลักเป็นรุปองคชาต ถูกใช้เพื่อลับคมอาวุธในสงครามอิร์มานดิโญ ซึ่งเป็นการต่อสู้ระหว่างชาวนาและชนชั้นนายทุนที่พยายามรักษาอำนาจและเอกสิทธิ์ตัวเอง โดยการปฏิวัติครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งการปฏิวัติของประชาชนทั่วยุโรปในยุคกลางตอนปลาย ซึ่งเกิดจากความขัดแย้งทางศาสนา ความไม่มั่นคงทางการเมือง กาฬโรค และวิกฤตเศรษฐกิจ

สัญลักษณ์รูปอวัยวะเพศชายในโบราณมีความหมายแตกต่างกันไปตามวัฒนธรรม และบริบท อย่างเช่นในยุคโรมันรูปลักษณ์ดังกล่าวถูกนำไปใช้เป็นเครื่องรางนำโชคหรือป้องกันสิ่งชั่วร้าย

ตามรายงานของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิแทนระบุว่า ครั้งหนึ่งในอดีตหลายคนเชื่อว่าสัญลักษณ์นี้ทำหน้าที่ป้องกันสิ่งชั่วร้าย โดยจะให้เด็กทารกสวมวัสดุที่มีรูกลักษณ์คล้ายรูปองคชาตไว้ที่คอเพื่อส่งเสริมสิริมงคล

“ความหมายของสัญลักษณ์แตกต่างกันไปตามแต่ละวัฒนธรรมและบริบทสังคม ซึ่ความหมายของมันงห่างไกลจากสิ่งน่ารังเกียจ ลามกอนาจาร หรือมีความหมายแอบแฝงในเรื่องอีโรติกอย่างที่คนในปัจจุบันเข้าใจ” โฆษกของทีมขุดพ้นกล่าว

อย่างไรก็ตามทีมค้นพบเชื่อว่าหินรูปอวัยวะเพศชายแสดงให้เห็นความสัมพันธ์เชิงสัญลักษณ์ระหว่างความรุนแรง อาวุธ และความเป็นชาย เป็นความสัมพันธ์ที่มีมาตั้งแต่ยุคกลาง และคงอยู่ในวัฒนธรรมปัจจุบัน

ที่มา

  • June 13, 2023. Stone Penis Found in Medieval Spanish ruins Had Violent Purpose. Iflscience
  • Jun 14,2023. Archaeologists discover a 6-inch stone penis in Spain that was used to sharpen weapons 500 years ago. Dailymail
  • Jun 15,2023. Stone Penis Found in Medieval Spanish ruins Had Violent Purpose. arkeonews
  • Irmandiño revolts. Wikipedia

Related posts

มหาอำนาจโลกในมือ ‘ทรัมป์’ จุดจบการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศ?

โลกจมกองพลาสติก ต้องเปลี่ยนวิธีผลิต ลดการบริโภค กำจัดอย่างยั่งยืน

อุณหภูมิทะลุ 3.1°C แผนลดก๊าซเรือนกระจกในปี 2030 เป็นเรื่องเพ้อฝัน