มูลนิธิกระจกเงาประกาศระดมกำลังคนเพื่อเป็นอาสาดับไฟป่าโดยเฉพาะนักวิ่งเทรลที่มีกำลังขาและคุ้นเคยกับภูมิประเทศในป่าเขา เพื่อช่วยดับไฟป่าบนอุทยานแห่งชาติออบขาน จ.เชียงใหม่
ลักษณะของไฟกระจายทุกทิศทาง และกระจายตัวเป็นวงกว้าง ความยาวหลายกิโลเมตร เนื่องจากไฟใหม้มาได้หลายวันแล้ว แนวทางปัจจุบันบนข้อจำกัดคือ การตัดแนวป้องกันและยอมสูญเสียพื้นที่จำนวนหนึ่งซึ่งไม่น้อย เนื่องด้วยกำลังคนมีเท่านี้ และคาดหวังว่าไฟจะไม่ข้ามแนว ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีอะไรเป็นหลักประกันได้ว่าไฟไม่ข้ามแนว
ที่คนเชียงใหม่ยังไม่ตื่นเต้นกับเรื่องนี้ก็เพราะแนวไฟทั้งหมดอยู่ในหุบเขาห่างไกลชุมชน จึงมองไม่เห็นกลุ่มไฟจำนวนมาก แต่มันไม่รอดพ้นสายตาของดาวเทียมที่ตรวจจับความร้อน ที่รายงานชัดเจนว่านี่เป็นกลุ่มไฟขนาดใหญ่ที่เกาะตัวกันจำนวนมาก จนเกือบจะพูดได้ว่าดับไม่ได้จนกว่าป่าจะไหม้หมด
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2565 เพจอาสาสมัคร มูลนิธิกระจกเงารายงานมีทีมอาสาดับไฟป่า 15 คนจากเชียงราย เข้าสมทบโดยจะตั้งฐานที่มั่นที่วัดพุทธมณฑล 2
ต.แม่โป่ง อ.ดอยสะเก็ต เชียงใหม่
พร้อมกันนี้ได้นำคลิปวิดีโอ 34 วินาที เพื่อชี้ให้เห็นสถานการณ์ไฟป่าที่มีเจ้าหน้าที่รัฐ 20 คน กับอาสาดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงาอีก 15 คน ที่รับมือกับกลุ่มไฟขนาดใหญ่ ที่แทบไม่มีความหวังว่าจะควบคุมไฟได้ แม้ว่านี่จะเป็นเพียงต้นฤดูไฟป่า หากไม่มีกำลังเข้ามาสมทบและไม่มีสื่อรายงานข่าวนี้ออกไป
วันที่ 5 มี.ค. 2565 อาสาสมัคร มูลนิธิกระจกเงา รายงานในกลุ่มไลน์อาสาดับไฟป่าเชียงใหม่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ฯ และอาสาราว 35 คน อยู่ระหว่างเข้าควบคุมไฟป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบขาน โดยจุดที่เกิดไฟห่างจากวัดนิลประภาประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งไฟกำลังลุกลามเป็นแนวยาว และขยายวงกว้าง
มีการแบ่งกำลัง 4 ชุด แบ่งเป็นสองทีม ซ้ายขาว ตีวงล้อมไฟ เบื้องต้นตั้งเป้าหมายจะดับไฟให้ได้ภายในวันนี้
ทั้งนี้ ทีมงานอาสาดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงาได้เข้าพื้นที่เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมาหลังจากเฝ้าสังเกตจุดความร้อนต่อเนื่องและได้นำโดรนขึ้นถ่ายภาพดูลักษณะของไฟในเวลากลางคืนพบว่าแนวไฟค่อนข้างยาวเกือบ 3 กม. แสดงให้เห็นว่าเป็นไฟที่ติดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2-3 วัน
อย่างไรก็ตาม มูลนิธิกระจกเงาได้เปิดบริจาคสนับสนุนภารกิจอาสาดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงา ชื่อบัญชีกองทุนภัยพิบัติ (Special Force) เลขที่บัญชี 202-258298-3 ธ.ไทยพาณิชย์ สอบถามได้ที่ 061-909-1840 หรือ 063-931-6340