นายภาณุเดช เกิดมะลิ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียรสืบ ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา คัดค้านการเพิกถอนพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 2 แสนกว่าไร่ ออกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน
ประเด็นดังกล่าวมาจากการประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา มีการแจ้งเรื่องเพื่อทราบการปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน โดยอ้างมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2566 ที่ได้เห็นชอบข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เรื่องผลการดำเนินการปรับปรุงแนวเขตที่ดินของรัฐ และปรับปรุงแนวเขตที่ดินของรัฐแบบบรูณาการ (One map) ที่ให้ดำเนินการใช้เส้นปรุง การสำรวจแนวเขต ปี พ.ศ. 2543 พื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จ.นครราชสีมา และปราจีนบุรีจะเป็นการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานถึงสองแสนกว่าไร่
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ขอคัดค้านการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จำนวน 265,286.58 ไร่ ออกจากการเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1. การประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ในวันดังกล่าวได้บรรจุหัวข้อการปรับปรุงแนวเขต อุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นวาระเรื่องทราบ ซึ่งถือเป็นการข้ามขั้นตอนการให้ข้อเสนอแนะอย่างละเอียดรอบคอบของคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ และประเด็นการเพิกถอนพื้นที่ดังกล่าวได้มีการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติมาแล้ว 2 ครั้ง
โดยที่ประชุมได้มีข้อเสนอแนะให้มีการใช้แนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรในเขตป่าอนุรักษ์ตามมาตรา 64 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรในเขตป่าอนุรักษ์ ตามมาตรา 64 เป็นการแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรที่มีอยู่ก่อนแล้วภายในเขตป่าอนุรักษ์ให้มีการจัดการได้อย่างเหมาะสมหลักเกณฑ์พิจารณา และคุณสมบติของบุคคลที่อยู่อาศัย หรือ ทำกิน ในชุมชนภายใต้ โครงการที่จะดำเนินการ รวมถึงหน้าที่ของบุคคลที่อยู่อาศัย หรือทำกินในชุมชนในการอนุรักษ์ฟื้น ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ระบบนิเวศ และความหลากหลายทางชีวภาพภายในเขตพื้นที่ดำเนินโครงการด้วย
2. การเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จำนวน 265,286.58 ไร่ โดยให้กันออกและส่งมอบพื้นที่ให้ ส.ป.ก. ดำเนินการ ทำให้ไม่เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พ.ศ. 2561 – 2580 ที่กำหนดให้ต้องมีการเพิ่มพื้นที่ป่าธรรมชาติให้ได้ร้อยละ 35 ของพื้นที่ประเทศ
และไม่เป็นไปตามนโยบายป่าไม้แห่งชาติที่กำหนดให้ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของพื้นที่ประเทศ และกระเทือนต่อความเป็นธรรมในการแก้ไขปัญหาราษฎรในป่าอนุรักษ์ตามมาตรา 64 ที่ดำเนินการ มาก่อนหน้านี้ รวมถึงอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ก้บนายทุน และจะกลายเป็นบรรทัดฐานที่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์อื่นๆ ที่มีปัญหาทับซ้อนในลักษณะเดียวกันทั่วประเทศ
3. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีภารกิจเกี่ยวกับการอนุรักษ์ส่งเสริมและฟื้นฟู ทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า ในเขตพื้นที่ป่าเพื่อการอนุรักษ์โดยการควบคุมป้องกันพื้นที่ป่าอนุรักษ์เดิมที่มีอยู่และพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมให้กลับสมบูรณ์ แต่กลับปล่อยให้เกิดกระบวนการเพิกถอนพื้นที่ป่าอนุรักษ์สองแสนกว่าไร่ ซึ่งขัดต่อภารกิจหลักของหน่วยงานตนเอง
หากยังคงให้เกิดการสูญเสียพื้นที่ป่าอนุรักษ์อย่างต่อเนื่อง เชื่อได้ว่า กรมอุทยานฯ ในยุคนี้จะเป็นยุคที่ประเทศไทยสญูเสียพื้นที่ป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาตมากที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา
มูลนิธิสืบนาคะเสถียรขอคัดค้านการดำเนินการเพื่อเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จำนวน 265,286.58 ไร่ และขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนภารกิจหลัก และหน้าที่ของหน่วยงานตนเอง เพื่อรักษาทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าของประเทศต่อไป