กลุ่มฅนรักทะเลเเละชายหาดปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เเละกลุ่ม Beach for life เปิดล่ารายชื่อเพื่อยื่นคัดค้านการดำเนินโครงการเขื่อนกันคลื่นชายหาดปราณบุรีในส่วนที่ 3 ความยาว 250 เมตร ซึ่งเป็นหาดผืนสุดท้ายผ่านเว็บไซต์ change.org
รายละเอียดแคมเปญระบุว่า เตรียมจะไปยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่ กทม. เพื่อขอให้อธิบดีฯ ยกเลิกการสร้างเขื่อนกันคลื่นที่ชายหาดศาลเสด็จเตี่ย ชายหาดสุดท้าย ณ ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
โครงการเขื่อนกันคลื่นป้องกันการกัดเซาะและการปรับภูมิทัศน์ ความยาว 900 เมตร ต.ปากน้ำปราณ (เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น ปี 2562 และจะเริ่มก่อสร้างในปี 2565)
โครงการแบ่งเป็น 3 โซน : โซนที่ 1 และ 2 ความยาวรวมกันประมาณ 600 เมตร ทางกลุ่มไม่คัดค้านใด ๆ เนื่องจากเป็นพื้นที่มีการกัดเซาะจริง แต่ขอคัดค้านเฉพาะพื้นที่โซนที่ 3 (ชายหาดหน้าศาลเสด็จเตี่ย) ความยาวเขื่อนประมาณ 250 เมตร (จากโครงการ 900 เมตร) โดยตั้งข้อสังเกต 3 ข้อ ถึงเหตุผลที่ควรยกเลิกการสร้างเขื่อนในโซนที่ 3 (เหลือเพียงแค่ทำการปรับภูมิทัศน์เท่านั้น) ดังนี้
- #ความจำเป็น การสร้างเขื่อนในโซนที่ 3 บริเวณนี้ #ไม่มีความจำเป็นใด ๆ เนื่องจากชายหาดบริเวณนี้ไม่มีการกัดเซาะ และสมดุล (มาเป็นเวลามากกว่า 10 ปี) มีข้อมูลทั้งที่เก็บโดยจิตอาสากลุ่มฅนรักทะเลและชายหาดปากน้ำปราณ, ข้อมูลจากกรมทรัพยากรธรณี และข้อมูลจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่มีความเห็นตรงกันว่า พื้นที่ชายหาดบริเวณนี้เป็นชายหาดสมดุลและไม่มีการกัดเซาะ
- #ความเหมาะสม.. เนื่องจากโครงการนี้มีการปรับภูมิทัศน์บรรจุเข้ามาในตัวโครงการด้วย ซึ่งกลุ่มไม่ได้ค้านเรื่องการปรับภูมิทัศน์เพื่อความสวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อย..แต่การปรับภูมิทัศน์ควรต้องมีความเหมาะสมกับพื้นที่ ควรจัดให้สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ อยู่ด้านในหลังจากเนินทรายที่ไม่ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำทะเลขึ้นสูงสุด เพื่อลดความเสี่ยงให้แก่สิ่งปลูกสร้างในระยะยาว
- #ความถูกต้อง… กระบวนการที่ใช้ถูกต้องหรือไม่ ..การรับฟังความคิดเห็นต่าง ๆ การสื่อสารกับชุมชน ด้วยการชี้ชวนที่ไม่เป็นจริง.. ว่าถ้าชาวบ้านต้องการให้มีการปรับภูมิทัศน์ #ต้องทำการสร้างเขื่อนกันคลื่นบริเวณชายหาดนี้ด้วย (ขายเหล้าพ่วงเบียร์) ซึ่งความจริงสามารถทำโครงการแยกออกจากกันได้ ถ้ามีความจริงใจในการที่จะช่วยเหลือพัฒนาชุมชนจริง ๆ
ที่สำคัญคือการสร้างเขื่อนในบริเวณชายหาดศาลเสด็จเตี่ยนี้จะทำให้ชายหาดนี้หายไปตลอดกาล ..เนื่องจากหาดทรายจะถูกแทนที่ด้วยเขื่อนคอนกรีตขนาดใหญ่ (กว้าง 15-18 เมตร ยาว 250 เมตร) อีกทั้งยังจะส่งผลกระทบต่อเนื่องทำให้เกิดการกัดเซาะที่รุนแรงขึ้น ณ จุดสิ้นสุดของเขื่อนดังกล่าว และทำให้ชายหาดในบริเวณถัดไปถูกกัดเซาะรุนแรงมากขึ้น
ยิ่งเป็นการตอกย้ำการสร้างความเสียหายต่อชายหาดถัดไปเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างร้ายแรง เพราะเขื่อนดังกล่าวจะทำให้สูญเสียชายหาดสุดท้ายแห่งนี้ไปอย่างถาวร (ซึ่งบริเวณนี้เหลือพื้นที่ชายหาดธรรมชาติที่ยังไม่มีการสร้างเขื่อนเพียงแค่ 700 เมตรเท่านั้น)
ชายหาดนี้มีคนในชุมชนใช้ทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น คนสูงวัยใช้เดินออกกำลังกาย, นอนฝังทรายเพื่อบำบัดความปวดเมื่อย, ใช้ตกปลา หาหอย ตามวิถีชาวบ้าน, เด็ก ๆ ใช้วิ่งเล่น เตะบอล เล่นว่าว เล่นน้ำทะเล, นักท่องเที่ยวใช้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวพักผ่อนเพื่อผ่อนคลาย, นักกีฬาไคท์เซิรฟใช้เป็นพื้นที่เล่นไคท์เพื่อฝึกซ้อมเตรียมแข่งขัน นกทะเลหลายร้อยตัวใช้เป็นที่อยู่อาศัยเพื่อวางไข่และเลี้ยงลูกน้อย และอื่น ๆ อีกนานัปการ
กลุ่มฅนรักทะเลเเละชายหาดปราณบุรี ขอให้ช่วยลงชื่อในแคมเปญนี้ เพื่อช่วยรักษาชายหาดสุดท้ายแห่งนี้ไว้ให้ลูกหลานและทุก ๆ คนสืบต่อไป โดยต้องการ 2,000 รายชื่อ หรือมากกว่านั้น ขณะนี้มีผู้ร่วมลงชื่อแล้ว 1,588 รายชื่อ
ร่วมลงชื่อได้ที่ https://bit.ly/3GzsoSG
#saveชายหาดปากน้ำปราณ #forthelastbeach #ไม่เอากำแพงกันคลื่น