รู้หรือไม่ ‘ถุงผ้า’ ใช้ซ้ำแค่ไหนถึงจะพอ

ถุงผ้าอาจกำลังสร้างปัญหาใหม่ให้สิ่งแวดล้อม จากการรณรงค์แบนถุงพลาสติกหูหิ้วแบบบาง หรือแบบครั้งเดียวใช้แล้วทิ้งไม่สามารถนำมาใช้ใหม่ได้

จากการศึกษาเส้นทางของถุงผ้าพบว่าการผลิตถุงผ้ามีคาร์บอนฟุตพริ้นท์สูงกว่าถุงพลาสติกแบบบาง และควรนำถุงผ้านั้นมาใช้อย่างน้อย 7,100 ครั้ง เพื่อตอบโจทย์ทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

รายงานของหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของเดนมาร์กในปี 2018 แนะนำว่าควรใช้ถุงผ้าฝ้ายอย่างน้อย 7,100 ครั้งเพื่อชดเชยผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อเทียบกับถุงพลาสติกแบบบางทั่วไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง แต่หากถุงผ้าทำจากฝ้ายออร์แกนิค จำนวนการนำมาใช้ซ้ำต้องเป็น 20,000 ครั้ง ถึงจะชดเชยผลกระทบได้

นอกจากถุงผ้าฝ้ายแล้ว ถุงชอปปิงพลาสติกแบบหนาที่วางขายบริเวณจุดชำระเงินทั่วไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตก็เป็นอีกประเด็นที่น่ากังวล

หลังจากใกฎหมายห้ามใช้ถุงพลาสติกและกระดาษแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ผู้ค้าก็นำถุงบรรจุแบบหนาเกรด HEAVY DUTY คล้ายถุงใส่ข้าวสารมาใช้บรรจุของชำแบบเดลิเวอรีให้ลูกค้า ซึ่งในปีที่ผ่านมาลูกค้าต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าได้ถุงใช้ซ้ำประเภทดังกล่าวเป็นจำนวนมากและไม่รู้ว่าจะนำไปใช้อะไรต่อ

ในขณะที่สหราชอาณาจักรพบว่าคนซื้อถุงผ้าหรือถุงชอปปิงพลาสติกแบบหนาแบบใช้ซ้ำได้ลดลงจากปี 2557 ซึ่งเป็นปีที่มีการเรียกเก็บค่าถุงพลาสติกแบบครั้งเดียวใช้แล้วทิ้ง กรีนพีซได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าในปี 2562 ซูเปอร์มาร์เก็ตในสหราชอาณาจักรขายถุงชอปปิงพลาสติกแบบหนาที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้หรือที่เรียกว่า ‘ถุงเพื่อชีวิต’ ที่ 1.58 พันล้านใบ เทียบเท่ากับ 57 ใบต่อครัวเรือน และมากกว่า 1 ถุงต่อสัปดาห์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบกับปี 2561

หรือบางกรณีที่ลืมถุงชอปปิงแล้วซื้อใบใหม่ด้วยความคิดว่าอย่างน้อยก็ดีกว่าซื้อถุงพลาสติกแบบบาง แต่หากลืมมากกว่า 1 ครั้ง นั่นเท่ากับกลายเป็นคนสะสมถุงชอปปิงพลาสติกโดยไม่รู้ตัว

จากกรณีข้างต้นแสดงให้เห็นว่าการเสนอถุงพลาสติกแบบหนาเพื่อสนับสนุนให้นำมาใช้ซ้ำนั้นใช้ไม่ได้ผล

เมื่อพูดถึงการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของถุงผ้าใช้ซ้ำหรือถุงชอปปิงพลาสติกแบบหนาตลอดอายุการใช้งาน มีหลายสิ่งที่ต้องคำนึง เช่น วัสดุ น้ำหนัก กระบวนการผลิต และวิธีการกำจัด

ถุงชอปปิงพลาสติกแบบหนาที่สามารถใส่ของหนักทำจากวัสดุชนิดเดียวกับถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เพียงแต่แต่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นสองเท่า และนั่นก็ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสองเท่าเว้นแต่จะนำกลับมาใช้ใหม่หลายครั้ง

ตามรายงานโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ พบว่าในปี 2563 มีการใช้ถุงโพลีโพรพิลีน (PP) ที่มีความหนาและทนทานคล้ายถุงใส่ข้าวสาร ประมาณ 10 ถึง 20 ครั้ง แต่มีการนำถุงพลาสติกโพลีเอทิลีน (PE) ซึ่งบางกว่ามาใช้ซ้ำ 5-10 ครั้ง

Tomas Ekvall หนึ่งในผู้เขียนรายงานของ UNEP และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่ง Chalmers University of Technology ในสวีเดน กล่าวว่า หากเรามุ่งมั่นสู่อนาคตที่ยั่งยืนโดยมีความคิดแบบซื้อถุงชอปปิงพลาสติก หรือถุงผ้าใช้ครั้งเดียวแล้วไม่นำกลับมาใช้ซ้ำ วิถีเช่นนั้นก็ไม่สอดคล้อง

แต่หากเรามุ่งมันสู่อนาคตที่ยั่งยืนคำตอบสำหรับสิ่งทดแทนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ดีสุดสำหรับถุงผ้าหรือถุงชอปปิงพลาสติกคือการใช้ซ้ำให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้และทิ้งอย่างระมัดระวัง หรือบริจาคให้กับจุดรับต่างๆ เช่นโรงพยาบาล หรือโรงเรียน เพื่อให้คุ้มค่ากับคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่เสียไปและเพื่อไม่ให้กลายเป็นมลพิษในอนาคต

อ้างอิง

  • Feb Life Cycle Assessment of grocery carrier bags. Ministry of Environment and Food of Denmark.
  • Single-use plastic bags and their alternatives. UNEP
  • Jan Checking Out on Plastics III. Greenpeace
  • Sep 13, N.J. weighs bringing back paper bags as unwanted reusable bags pile up. NJ.com
  • Mar 13, Here’s how many times you need to reuse your reusable grocery bags. CNN

Related posts

ข่าวดี! จีนลดตรวจสาร BY2 ทุเรียนไทย เริ่ม 10 พ.ค. 68

อีก 27 ล้านไร่ เพิ่ม ‘พื้นที่ป่า’ 40% ภายในปี 2579

เปิดภาพ ‘ขยะทะเล’ ภัยร้ายทะเลไทย คุกคามสัตว์ทะเล-แนวปะการัง