ในฐานะกรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงที่เป็นศูนย์รวมของทุกอย่าง เราคงลดกิจกรรมไม่ให้มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ ได้ เพราะเครื่องจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจจะชะงัก การจะลดปริมาณการใช้รถยนต์จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้ ทว่าสามารถเปลี่ยนเครื่องยนต์สันดาปให้เป็นรถไฟฟ้า หรือรถ EV แทนได้
.
เริ่มจากรัฐต้องสร้างแรงจูงใจหรือออกมาตรการสนับสนุนให้เจ้าของรถยนต์ดีเซลอายุเกิน 10 ปี เปลี่ยนอุปกรณ์เป็นรถ EV ที่เรียกว่ากระบวนการ EV Convertion (สนับสนุนให้มีอู่มีความพร้อมเข้าร่วมกระบวนการนี้ด้วย)
.
จากนั้นนำเครื่องยนต์เก่าไปใช้เปลี่ยนพฤติกรรมการเผาชีวมวลทิ้งในภาคเกษตรซึ่งเป็นสาเหตุของการสร้างฝุ่น PM2.5 ด้วย เช่น นำเครื่องยนต์ไปผลิตไฟฟ้าใช้เอง ทำน้ำส้มควันไม้และทำไบโอชาร์ ฯลฯ ถือเป็นการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรอีกทาง
.
กระบวนการเหล่านี้ทำคู่ขนานไปกับกลุ่มประชาชนที่มีกำลังซื้อที่จะหันไปใช้รถ EV ซึ่งภาครัฐกำลังออกมาตรการส่งเสริมเพิ่มมากขึ้น และค่ายรถก็จะปล่อยรถ EV เข้าสู่ตลาดมากขึ้น ในขณะที่หน่วยงานรัฐก็ต้องค่อยๆ เปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้ากันให้มากขึ้น
.
หากการขับเคลื่อนกระบวนการนี้สำเร็จ ภาพที่จะเกิดขึ้นในวันหน้าก็คือแม้การจราจรยังหนาแน่น (ระบบขนส่งสาธารณะยังไม่ดีพอ) แต่รถยนต์สันดาปจะค่อยๆ ลดลง เพราะเปลี่ยนมาเป็นรถ EV เพิ่มขึ้น รถ EV ใหม่ในตลาดจะมากขึ้น การปล่อยมลพิษในกรุงเทพฯ ก็จะน้อยลง ฝุ่น PM2.5 ก็จะลดลงตามไปด้วย