1 ใน 5 ปีข้างหน้ามีโอกาส 93% โลกจะร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์

ผ่านไปไม่ถึง 7 ปี นับตั้งแต่มีการลงนามในข้อตกลงปารีส หรือเมื่อตั้งแต่ปี 2015 แต่รายงานฉบับใหม่ระบุว่า โลกอาจใกล้จะเลยขีด?จำกัดอุณหภูมิที่จัดทำโดยองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) เป็นครั้งแรกว่ามีโอกาสประมาณ 50:50 ที่อุณหภูมิโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.5?C เหนือระดับก่อนอุตสาหกรรมอย่างน้อยหนึ่งครั้งภายในปี 2026

เกณฑ์ 1.5?C เป็นที่ยอมรับของรัฐบาลทั่วโลก และได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะหลีกเลี่ยงการเพิ่มขึ้นของหายนะที่ระดับ 2?C ภายในสิ้นศตวรรษนี้ เพราะการปล่อยให้อุณหภูมิสูงเกินค่าเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพอากาศของโลก ซึ่งรวมถึงระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น เกิดความแห้งแล้งและไฟป่าที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งเหตุการณ์สภาพอากาศที่รุนแรงมากขึ้น

จากการวิเคราะห์ข้อมูลจากศูนย์วิจัยสภาพภูมิอากาศชั้นนำของโลก รายงานของ WMO คาดการณ์ว่า อุณหภูมิโลกจะผันผวนระหว่าง 1.1 ถึง 1.7?C เหนือระดับก่อนอุตสาหกรรม ระหว่างปี 2022 ถึง 2026 โดยมีโอกาส 48% ที่อย่างน้อยหนึ่งปีจะทำลายขีดจำกัด 1.5?C

โอกาสที่อุณหภูมิจะเกิน 1.5?C เป็นการชั่วคราวได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2015 แต่ความน่าจะเป็นนั้นก็เพิ่มขึ้นในอัตราที่น่าตกใจ ระหว่างปี 2017-2021 มีโอกาสเกิน 10% และในปี 2021 อุณหภูมิโลกเฉลี่ยอยู่ที่ 1.1?C เหนือระดับพื้นฐาน  ในช่วงปี 2022-2026 ความน่าจะเป็นนั้นจะเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 50%

“ตัวเลข 1.5?C ไม่ใช่สถิติสุ่ม มันเป็นตัวบ่งชี้ถึงจุดที่ผลกระทบจากสภาพอากาศจะเป็นอันตรายต่อผู้คนและโลกทั้งใบมากขึ้น” ศาสตราจารย์ เพทเตอรี ทาลาส (Petteri Taalas) เลขาธิการ WMO กล่าว

“ตราบใดที่เราปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมา อุณหภูมิก็จะสูงขึ้นต่อไป ยิ่งไปกว่านั้นมหาสมุทรของเราจะยังคงอุ่นขึ้นและเป็นกรดมากขึ้น น้ำแข็งในทะเลและธารน้ำแข็งจะละลายต่อไป ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสภาพอากาศของเราจะรุนแรงขึ้น”

ตามรายงาน มีโอกาสร้อยละ 93 ที่อย่างน้อยหนึ่งในห้าปีข้างหน้าจะเป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์แซงหน้าปี 2016 ในขณะที่มีโอกาสเท่าเทียมกันที่ช่วง 2022 ถึง 2026 จะอบอุ่นกว่าช่วงห้าปีที่ผ่านมา และที่น่าเป็นห่วงคือ ข้อมูลบ่งชี้ว่าการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิในอาร์กติกจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกประมาณสามเท่าในช่วงเวลานี้

เมื่อพิจารณาถึงบทบาทของบริเวณขั้วโลกในการควบคุมสภาพอากาศของโลก การสูญเสียน้ำแข็งในทะเลอาร์กติกมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดรูปแบบสภาพอากาศที่คาดเดาไม่ได้มากขึ้นและอุณหภูมิของมหาสมุทรสูงขึ้น ศาสตราจารย์ทาลาสอธิบายว่า “ภาวะโลกร้อนในอาร์กติกสูงเกินควร และสิ่งที่เกิดขึ้นในแถบอาร์กติกส่งผลกระทบต่อพวกเราทุกคน”

ดร.ลีออน เฮอร์แมนสัน แห่งสำนักงานอุตุนิยมวิทยา (Met Office) ของสหราชอาณาจักร ผู้นำรายงานกล่าวว่า “การพยากรณ์สภาพอากาศล่าสุดของเราแสดงให้เห็นว่าอุณหภูมิโลกจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจะดำเนินต่อไป โดยมีโอกาสที่หนึ่งปีระหว่างปี 2022 ถึง 2026 จะเกิน 1.5?C เหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม

“หนึ่งปีที่เกิน 1.5?C ไม่ได้หมายความว่าเราได้ฝ่าฝืนเกณฑ์ของข้อตกลงปารีส แต่เป็นการเปิดเผยว่าเรากำลังเข้าใกล้สถานการณ์ที่ 1.5?C อาจเกินระยะเวลานานขึ้น”

อ้างอิง:

Benjamin Taub (May 10, 2022) “There’s A 50-50 Chance We’ll Break The 1.5?C Global Temperature Limit In The Next Five Years” . Iflscience

(May 10, 2022) 50:50 Chance of Global Temperature Temporarily Reaching 1.5?C Threshold in Next 5 Years . unfccc

Related posts

‘เฉลิมชัย’ นำทีมไทยถก COP29 นำเสนอ 5 ประเด็นลดก๊าซ 222 ล้านตัน

มหาอำนาจโลกในมือ ‘ทรัมป์’ จุดจบการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศ?

โลกจมกองพลาสติก ต้องเปลี่ยนวิธีผลิต ลดการบริโภค กำจัดอย่างยั่งยืน