ยุทธศาสตร์ใหม่ดับไฟป่าอเมริกาใช้วิทยาศาสตร์เป็นอาวุธแก้ปัญหา

ไฟป่าเป็นกระบวนการทางธรรมชาติที่สำคัญในระบบนิเวศที่มีวงจรชีวิตขึ้นอยู่กับไฟ มันช่วยทำให้ป่าคืนชีพอีกครั้ง กระตุ้นการเติบโตของหน่อต้นไม้ และสร้างสารอาหารใหม่ๆ อย่างไรก็ตามไฟป่าที่ไม่ได้ควบคุมหรือเผาล่วงหน้าตามที่วางแผนไว้อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อชุมชนของมนุษย์

เพื่อช่วยจัดการกับความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับไฟป่าในอเมริกา สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐ (USGS) เปิดตัวยุทธศาสตร์วิทยาศาสตร์การดับไฟป่าใหม่ที่ระบุถึงความจำเป็นที่สำคัญสำหรับการวิจัยไฟป่าในอีก 5 ปีข้างหน้า ยุทธศาสตร์นี้สามารถนำไปใช้เพื่อทำความเข้าใจความสมดุลระหว่างผลประโยชน์ของไฟและผลกระทบที่เป็นอันตรายได้ดีขึ้น

เพื่อประโยชน์ในการจัดการไฟป่าของไทย เราจึงสรุปย่อยุทธศาสตร์ของ USGS ซึ่งต้องเจอกับไฟป่าระดับโลกที่หนักหน่วงมากทุกปี เพื่อดูว่าพวกเขาจัดการกันอย่างไรและปรับตัวอย่างไรกับไฟป่าที่เปลี่ยนไป

USGS แบ่งแนวทางใหม่ออกเป็นความจำเป็นเร่งด่วน 2 ข้อ ในแต่ละข้อมีเป้าหมายต่างๆ และในเป้าหมายมียุทธศาสตร์ต่างๆ โดยลำดับความสำคัญที่ 1 คือการผลิตข้อมูลวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับไฟป่าที่ทันสมัยและดำเนินการได้ แบ่งเป็น 4 เป้าหมาย คือ

เครดิตภาพ : Rachel Loehman, USGS. Public domain

เป้าหมายที่ 1 : ปรับปรุงความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงธรรมชาติของไฟป่า แบ่งเป็น 4 ยุทธศาสตร์

ยุทธศาสตร์ที่ 1 : เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติไฟป่าให้ดีขึ้น รวมถึงสภาพภูมิอากาศที่แปรผันไปและการใช้ที่ดินที่ทำให้ความถี่ของไฟ และความรุนแรงเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย USGS จึงต้องมีวิทยาศาสตร์ที่ช่วยเพิ่มความเข้าใจของเราเกี่ยวกับอุปนิสัยของไฟในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นและผลกระทบต่อระบบนิเวศซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดการไฟและที่ดิน

ยุทธศาสตร์ที่ 2 : ต้องรู้จักระบบนิเวศให้ดีขึ้น วิทยาศาสตร์การดับเพลิงของ USGS มุ่งเน้นไปที่การคาดการณ์ตัวขับเคลื่อนของการเปลี่ยนแปลงทางนิเวศวิทยาและผลกระทบของระบบนิเวศ ซึ่งเราขาดความรู้ที่สำคัญในเรื่องนี้ รวมถึงกำหนดรูปแบบการจัดการที่ดินซึ่งไม่ค่อยจะแน่นอนให้แน่นอนขึ้น

ยุทธศาสตร์ที่ 3 : เพิ่มขีดความสามารถในการประเมินและคาดการณ์ความรุนแรงของการไหม้ ความรุนแรงของการเผาไหม้มีความซับซ้อนและได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น ทำความเข้าใจให้มากขึ้นเกี่ยวกับตัวการผลักดันไฟและรูปแบบภูมิทัศน์ของความรุนแรงจากการเผาไหม้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการคาดการณ์และดูว่าพื้นที่สาธารณะและทรัพยากรจะกระทบแค่ไหน

ยุทธศาสตร์ที่ 4 : ใช้วิธีการสร้างแบบจำลองที่ซับซ้อนเพื่อคาดการณ์ผลกระทบของสภาพภูมิอากาศในอนาคตและระบบการเกิดไฟที่มีต่อระบบนิเวศ ทำความเข้าใจให้ดีขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

• เป้าหมายที่ 2 : ปรับปรุงความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของไฟและการจัดการไฟกับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ความยืดหยุ่นของระบบนิเวศและการฟื้นตัวหลังไฟป่า แบ่งเป็น 5 ยุทธศาสตร์

ยุทธศาสตร์ที่ 1 : ระบุวิธีประเมินลักษณะเชื้อเพลิง พื้นที่เสี่ยงให้ดีขึ้นและประเมินบทบาทของเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าในการขับเคลื่อนเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ผิดปกติในระบบนิเวศ

ยุทธศาสตร์ที่ 2 : ทำความเข้าใจเพิ่มเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดประกายไฟในภูมิประเทศ การระบุความสัมพันธ์ระหว่างแหล่งที่มาของการจุดระเบิด การเกิดเพลิงไหม้ และความแปรปรวนของสภาพอากาศในบริเวณที่เกิดไฟไหม้ ซึ่งจะช่วยเป็นข้อมูลให้โครงการป้องกันอัคคีภัย การคาดการณ์ความเสี่ยงจากอัคคีภัยในอนาคต

ยุทธศาสตร์ที่ 3 : ใช้หลักวิทยาศาสตร์ที่จัดการกับผลกระทบของไฟป่าต่อความหลากหลายทางชีวภาพและการอนุรักษ์

ยุทธศาสตร์ที่ 4 : เชื่อมโยงการประเมินความรุนแรงของการเผาไหม้กับการจัดการอัคคีภัยและการฟื้นฟูและฟื้นฟูระบบนิเวศทั้งหมด สำหรับการพัฒนากลยุทธ์สำหรับกิจกรรมบรรเทาและฟื้นฟูภายในและเกี่ยวข้องกับพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้

ยุทธศาสตร์ที่ 5 : USGS จะให้ข้อมูลที่สำคัญว่าเชื้อเพลิงและสภาพอากาศที่เกิดไฟมีผลต่อสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศอย่างไร เพื่อดำเนินการจัดการที่เกี่ยวข้องกับการใช้ไฟอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพื่อควบคุมสิ่งมีชีวิตที่รุกรานและจัดหาที่อยู่อาศัยสำหรับสิ่งมีชีวิตที่ปรับตัวเข้ากับไฟป่าได้ง่าย

เป้าหมายที่ 3 : นำวิทยาศาสตร์มาช่วยปกป้องมนุษย์ ชีวิตความเป็นอยู่ ทรัพย์สินและโครงสร้างพื้นฐาน แบ่งเป็น 4 ยุทธศาสตร์

ยุทธศาสตร์ที่ 1 : สนับสนุนความพยายามในการพัฒนาชุมชนที่ปรับตัวเข้ากับไฟป่า ข้อมูลวิทยาศาสตร์ของ USGS จะพัฒนาแนวทางสำหรับชุมชนที่ปรับตัวจากไฟ ตัวอย่างเช่น จากการศึกษาว่าสภาพแวดล้อมในและรอบๆ พื้นที่ป่าในเมืองส่งผลกระทบต่อศักยภาพของการสูญเสียโครงสร้างพื้นฐานจากไฟป่าและจากการวิจัยว่าชุมชนสามารถปรับตัวเข้ากับไฟป่าและผลกระทบได้อย่างไร

ยุทธศาสตร์ที่ 2 : ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดไฟไหม้ร้ายแรงที่ส่วนต่อระหวางเมืองกับป่า นักวิทยาศาสตร์ของ USGS ทำการศึกษาประวัติการเกิดขึ้นของไฟในพื้นที่พวกนี้และสามารถใช้เพื่อลดความเสี่ยงต่อชุมชนได้

ยุทธศาสตร์ที่ 3 : ทำความเข้าใจผลกระทบด้านสุขภาพและความปลอดภัยของมนุษย์จากไฟป่า โดย USGS ร่วมมือกับพันธมิตร ตัวอย่างเช่น สำนักงานป่าไม้ของสหรัฐ สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐ, ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค, องค์การบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ, กระทรวงพลังงานของสหรัฐอเมริกา (เพื่อระบุลักษณะอันตรายของมนุษย์ให้ดีขึ้น เช่น คุณภาพน้ำและอากาศที่ลดลง ควันเถ้าและอนุภาคที่ถูกลมพัด)

ยุทธศาสตร์ที่ 4 : รักษาความสมบูรณ์ของดินแดนและทรัพยากรดั้งเดิม นักวิทยาศาสตร์ของ USGS ให้ความสำคัญกับความร่วมมือกับชนเผ่า หน่วยงานต่างๆ และภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาและปกป้องคุณสมบัติทางนิเวศวิทยาและวัฒนธรรมที่สำคัญซึ่งกำหนดภูมิประเทศแบบดั้งเดิม การดำเนินการเหล่านี้ช่วยป้องกันความเสียหายต่อสถานที่ทางวัฒนธรรมและโบราณวัตถุ ปกป้องการยังชีพและทรัพยากรทางยา เคารพอำนาจอธิปไตยของชนเผ่าและรวมแนวทางการจัดการไฟและที่ดินแบบดั้งเดิมเข้ากับการใช้งานร่วมสมัย

เป้าหมายที่ 4 : พัฒนาเครื่องมือที่ล้ำสมัยและระบบสนับสนุนการตัดสินใจที่ช่วยให้สำนักงานจัดการที่ดิน หน่วยงานดับเพลิง และหน่วยงานฉุกเฉินและพันธมิตรได้รับข้อมูลเกี่ยวกับไฟป่าที่สำคัญ แบ่งเป็น 4 ยุทธศาสตร์

ยุทธศาสตร์ที่ 1 : รักษาและขยายข้อมูลภูมิสารสนเทศและการสนับสนุนสำหรับรับมือเหตุการณ์และการวางแผนไฟป่า ปัจจุบัน USGS ยังคงดูแลโปรแกรมการถ่ายภาพที่ดินแห่งชาติ ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลหลักของข้อมูลการถ่ายภาพพื้นดินเชิงภูมิสารสนเทศและแบบจำลองที่ได้รับซึ่งใช้สำหรับวิทยาศาสตร์การดับเพลิง

ยุทธศาสตร์ที่ 2 : ปรับปรุงความสามารถในการคาดการณ์สำหรับภัยน้ำท่วมหลังเกิดเพลิงไหม้และอันตรายจากคุณภาพน้ำ รวมถึงกลยุทธ์การปรับตัวสำหรับผู้ให้บริการน้ำ USGS จะดำเนินการตรวจสอบที่สำคัญซึ่งรวมถึงพลวัตของการเคลื่อนตัวของตะกอนหลังไฟไหม้ เพื่อบรรเทาอันตรายที่เกี่ยวข้องกับน้ำหลังเกิดไฟป่า

ยุทธศาสตร์ที่ 3 : ดำเนินการประเมินความเสี่ยงและอันตรายจากการไหลของซากเผาไหม้หลังไฟป่าในเชิงลึก การวิจัยประยุกต์ช่วยในการสร้างแบบจำลองศักยภาพของการไหลของเศษซากหลังไฟไหม้ (แผ่นดินถล่มที่เคลื่อนที่เร็ว) ซึ่งได้รับอิทธิพลจากเหตุการณ์ฝนตกและลักษณะภูมิทัศน์ ทำแบบจำลองความน่าจะเป็นของการไหลของเศษซากที่ใช้ในการประเมินความเปราะบางของชุมชน การประเมินอันตรายจากการไหลของเศษซาก

ยุทธศาสตร์ที่ 4 : เพิ่มการสร้างแบบจำลองชีวมวลและคาร์บอนสำหรับไฟป่า การประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากไฟป่าที่เพิ่งเกิดขึ้น และแบบจำลองของกิจกรรมไฟป่าที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ยุทธศาสตร์ที่ 5 : ยังคงมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งอนาคตสำหรับการทำแผนที่และการสร้างแบบจำลองไฟ เช่น สร้างแบบจำลองที่ดีขึ้นเพื่อศึกษาพฤติกรรมการเกิดไฟและผลกระทบจากไฟโดยเฉพาะในระบบนิเวศที่ไม่ใช่ป่าไม้ การปล่อยควันที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพของมนุษย์ และการใช้คลาวด์คอมพิวติ้งแมชชีนเลิร์นนิงขั้นสูงและเครือข่ายเซ็นเซอร์และแพลตฟอร์มใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำแผนที่การตรวจสอบและความสามารถในการทำนาย

พวกนี้เป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ 1 ลำดับความสำคัญ 2 คือ การมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในวิทยาศาสตร์การผลิตและการจัดส่งวิทยาศาสตร์ แบ่งเป็น 2 เป้าหมายคือ

เป้าหมายที่ 1 : การเข้าไปมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างแข็งขันและต่อเนื่องตลอดระยะเวลาของการวิจัยเกี่ยวกับไฟป่าโดยใช้แนวทางการผลิตร่วมแบบวิทยาศาสตร์ แบ่งเป็น 7 ยุทธศาสตร์

ยุทธศาสตร์ที่ 1 : ร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของการวิจัย เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีการระบุความต้องการทางวิทยาศาสตร์เพื่อตอบสนองความต้องการข้อมูลและผลิตภัณฑ์เหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพและทันเวลา

ยุทธศาสตร์ที่ 2 : ทำงานร่วมกับชนเผ่าพื้นเมืองในร่วมผลิตวิทยาศาสตร์การดับเพลิง USGS มุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับชนพื้นเมืองเพื่อผสมผสานแบบดั้งเดิม ความรู้ความสนใจในการวิจัยและความต้องการทางวิทยาศาสตร์ ลำดับความสำคัญของวิทยาศาสตร์การดับเพลิงร่วมกัน เพื่อรับองค์ความรู้และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับอัคคีภัยของชนพื้นเมือง การดูแลที่ดิน และเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์การดับเพลิง ดินแดนของชนเผ่าและสำหรับความกังวลและผลประโยชน์ของชนเผ่า

ยุทธศาสตร์ที่ 3 : ใช้กำลังคนหลายฝ่ายและสหสาขาวิชาชีพ แนวทางและแนวทางแก้ไข เพื่อตอบสนองความต้องการวิทยาศาสตร์การดับไฟที่มีเงื่อนไขซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ

ยุทธศาสตร์ที่ 4 : บูรณาการสาขาวิชานอกรูปแบบดั้งเดิม วิทยาศาสตร์ไฟป่า รวมถึงมานุษยวิทยา ภูมิศาสตร์ ชีววิทยา เศรษฐศาสตร์ สังคม ฟิสิกส์และเคมี และอื่น ๆ

ยุทธศาสตร์ที่ 5 : รวมพันธมิตรระหว่างประเทศที่ต้องเผชิญที่มีปัญหาคล้ายๆ กัน ตัวอย่างเช่น แอฟริกา ออสเตรเลีย แคนาดา ไซบีเรีย อเมริกาใต้ ยุโรปตอนใต้ ซึ่งข้อมูลวิทยาศาสตร์การดับเพลิงของ USGS สามารถเป็นประโยชน์ในท้องถิ่นนั้น

ยุทธศาสตร์ที่ 6 : เป็นพันธมิตรกับองค์กรที่มีวิทยาศาสตร์การดับเพลิงเพื่อเชื่อมโยงศักยภาพระหว่างนักวิทยาศาสตร์

ยุทธศาสตร์ที่ 7 : ใช้เงินทุนด้านวิทยาศาสตร์การดับเพลิงของ USGS โดยเฉพาะ
ผ่านสายการวิจัยและโครงการเพื่อตอบสนองความต้องการด้านวิทยาศาสตร์
ผ่านการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

เป้าหมายที่ 2 : ใช้แนวทางการจัดส่งวิทยาศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้แน่ใจว่างานวิจัยวิทยาศาสตร์ดับเพลิง ข้อมูลและเครื่องมือของ USGS จะตอบสนองผู้ใช้ได้เต็มที่ แบ่งเป็น 9 ยุทธศาสตร์

ยุทธศาสตร์ที่ 1 : กำหนดเป้าหมายเผยแพร่งานวิทยาศาสตรร์ที่ได้มาให้นักนวัตกรรม หรือผู้นำทางความคิดที่สามารถเริ่มแพร่กระจายและใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ข้อมูลในหมู่เพื่อนร่วมงานพวกเขา

ยุทธศาสตร์ที่ 2 : พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานภาษาง่ายๆ ที่ผู้จัดการนำไปใช้สามารถเข้าใจและซึมซับได้ง่าย

ยุทธศาสตร์ที่ 3 : ตระหนักถึงความสำคัญของการสื่อสารอย่างไม่เป็นทางการในฐานะเป็นเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากปัญหาไฟป่า

ยุทธศาสตร์ที่ 4 : ต้องรักษาเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมของการวิจัย การออกแบบ และการสื่อสาร

ยุทธศาสตร์ที่ 5 : แสดงให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องของการวิจัยกับผู้ใช้และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

ยุทธศาสตร์ที่ 6 : ติดตามผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านวิทยาศาสตร์การดับเพลิงเพื่อให้แน่ใจว่ามีการนำความรู้และเครื่องมือที่ถ่ายทอดไปใช้

ยุทธศาสตร์ที่ 7 : ประเมินประสิทธิผลของการนำส่งวิทยาศาสตร์ แนวปฏิบัติหลังการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อระบุปัญหาสำหรับนำไปปรับปรุงเพื่อสามารถนำไปใช้ในอนาคต

ยุทธศาสตร์ที่ 8 : รักษาและสนับสนุนผลงานด้านวิทยาศาสตร์ที่ขับเคลื่อนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่หลากหลาย ซึ่งสามารถใช้ในการจัดการองค์กรได้

ยุทธศาสตร์ที่ 9 : ตระหนักถึงความสำคัญของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือโครงการในวงกว้าง ตลอดจนโครงการต่างๆ ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะในระดับท้องถิ่น

นอกจากนี้ยังมีความจำเป็นเร่งด่วนเฉพาะหน้าที่ 3 และที่ 4 ซึ่งเป็นรายละเอียดภายในองค์กรของ USGS จึงขอละไว้ แต่ประเด็นสำคัญของการปรับยุทธศาสตร์ในรายงานนี้คือการใช้วิทยาศาสตร์อย่างมาก และเมื่อได้วิทยาศาสตร์มาแล้วจะต้องนำไปใช้และเผยแพร่ด้วยวิธีการที่กระชับ เข้าใจง่าย และต้องติดตามด้วยว่ามีการนำไปใช้จริงหรือไม่

ยุทธศาสตร์นี้จึงเป็นแนวคิดแบบปฏิบัตินิยมอย่างมาก เหมาะกับความเร่งด่วนเฉพาะหน้าของไฟป่าที่รุนแรงขึ้นในสหรัฐอเมริกาเนื่องจากภาวะโลกร้อน

สรุปจาก :
Steblein, P.F., Loehman, R.A., Miller, M.P., Holomuzki, J.R., Soileau, S.C., Brooks, M.L., Drane-Maury, M., Hamilton, H.M., Kean, J.W., Keeley, J.E., Mason, R.R., Jr., McKerrow, A., Meldrum, J.R., Molder, E.B., Murphy, S.F., Peterson, B., Plumlee, G.S., Shinneman, D.J., van Mantgem, P.J., and York, A., 2021, U.S. Geological Survey wildland fire science strategic plan, 2021–26: U.S. Geological Survey Circular 1471, 30 p., https://doi.org/10.3133/cir1471.

Related posts

การเกษตรรักษ์โลก ‘แหนเป็ด’ ซูเปอร์ฟู้ดแห่งอนาคตโปรตีนสูง 45%

เป้าหมาย NDC ความมุ่งมั่นของไทย ก้าวย่างสู่ Net Zero และโลกยั่งยืน

ประโยชน์การเข้าร่วมเวที COP29 โอกาสเข้าถึงเงินช่วยเหลือของไทย