News Update

  • หลายทศวรรษที่ผ่านมาพบว่า ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้ส่งผลให้ภัยแล้งทวีความรุนแรงมากขึ้น ขยายขอบเขตความเสียหายกว้างมากขึ้น และยิ่งสภาพอากาศมีความแปรปรวนสูง ประกอบกับปรากฏการณ์เอลนีโญยิ่งทำให้บางภูมิภาคของโลกเกิดความแห้งแล้ง โดยเฉพาะประเทศไทยที่อยู่ในเสี่ยงเผชิญอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าระดับปกติ และอาจเกิดสภาพอากาศแปรปรวนในบางพื้นที่ เช่น บริเวณที่เคยมีฝนตกชุกอาจต้องเผชิญกับความแห้งแล้งฉับพลัน หรือในพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำฝนอาจเผชิญกับพายุฝนรุนแรง เป็นต้น (1)

  • นักวิทยาศาสตร์ฟันธงว่า ความปั่นป่วนของสภาพอากาศเลวร้ายบนท้องฟ้าที่ทำให้สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ “ตกหลุมอากาศ” อย่างรุนแรง และต้องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่ได้มาจากสภาพอากาศแปรปรวนธรรมดา แต่เป็นผลพวงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change เนื่องจากผลการศึกษาพบว่า ที่ผ่านมาท้องฟ้ามีความสั่นสะเทือนมากขึ้นถึง 55% เมื่อเทียบกับ 4 ทศวรรษก่อน เนื่องจากภาวะโลกร้อนที่รุนแรงขึ้น เที่ยวบิน SQ321 สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์มุ่งหน้าจากท่าอากาศยานฮีทโธรว์ในอังกฤษปลายทางสู่ท่าอากาศยานชางงีของสิงคโปร์ ต้องเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่บนท้องฟ้า โดยเจ้าหน้าที่สายการบินรายหนึ่ง กล่าวว่า หลังจากบินไปได้ประมาณ 10 ชั่วโมง เครื่องบินลำนี้ก็เผชิญกับ “ความปั่นป่วนรุนแรงฉับพลัน” เหนือแอ่งอิรวดีของประเทศเมียนมา ที่ระดับความสูง …

  • ช่วงนี้เกิดปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาวเยอะมาก ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ทำให้อุทยานทั้งหลายต้องสั่งปิดแหล่งท่องเที่ยวกันจ้าละหวั่น เราก็เลยอยากพาไปทำความรู้จักสัตว์ทะเลหายากตัวหนึ่งที่เขาบอกว่า เอาตัวรอดเก่ง มันคือ “เม่นหมวกกันน็อค” ซึ่งปกติเม่นทะเลจะมีหนามแหลมๆ ตามลำตัว แต่เจ้าตัวนี้กลับไร้หนาม ทั้งที่ๆ ที่มันเป็นสัตว์ในกลุ่มผิวลำตัวเป็นหนาม (Echinoderm) เช่นเดียวกับ ดาวทะเล ดาวขนนก ดาวเปราะ และปลิงทะเล

  • ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียนกำลังตกเป็นเป้าการโจมตีของคลื่นความร้อนอย่างรุนแรง บางพื้นที่กำลังสำลักมลพิษอากาศจากฝุ่น PM2.5 อยู่แล้ว ทำให้สถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่เดิมยิ่งมีอันตรายมากขึ้นถึงชีวิต

  • ความหิวล้อมเราไว้หมดแล้ว! ในวันที่โลกกำลังตกอยู่ท่ามกลาง “วิกฤตอาหาร” ซึ่งร้ายแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากประชากรบางกลุ่มไม่มีอาหารสำหรับบริโภคอย่างเพียงพอ ทั้งยังขาดแคลนอาหารปลอดภัย และมีคุณค่าทางโภชนาการ

  • ผลวิจัยองค์กรระหว่างประเทศพบว่า “โคคา-โคล่า” เป็นแบรนด์สินค้าที่ก่อมลภาวะพลาสติกสูงที่สุดในโลก คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 11% รองลงมาคือ เป๊ปซี่โค สัดส่วน 5% ตามมาด้วยเนสท์เล่ และดานอน สัดส่วน 3% เท่ากัน โดยยังมีอีก 13 บริษัทจากผู้ผลิตอาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบ ก่อมลพิษพลาสติกในสัดส่วนมากกว่า 1% ของทั้งหมด ในขณะที่ไทยยังคงรั้งอันดับ 5 ประเทศที่ทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลมากที่สุด

Copyright @2021 – All Right Reserved.