นครนายกไฟยังลุกท่วม ประกาศเขตภัยพิบัติไฟป่าในพื้นที่ ต.พรหมณี และ ต.เขาพระ หลังกระแสลมส่งผลให้เกิดไฟลุกไหม้อีกครั้งในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
วันที่ 30 มี.ค.2566 สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครนายกระบุ จ.นครนายก ออกประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน กรณีเหตุอัคคีภัย (ไฟป่า) ในพื้นที่ อ.เมืองนครนายก ดังนี้
- หมู่ที่ 13 ต.พรหมณี อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก
- หมู่ที่ 10 , 11 , 12 และหมู่ที่ 13 ต.เขาพระ อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก
สถานการณ์ไฟป่าเขาแหลมยังไม่สงบโดยหลังกระแสลมพัดเข้ามาในพื้นที่ ต.เขาพระ ในช่วงหัวค่ำวันที่ 30 มี.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ไฟลุกลามรุนแรงขึ้น
ไทม์ไลน์ไฟป่า
28 มี.ค. เวลา 18:00 น. เกิดพายุลมแรงและฟ้าผ่าลงบนเขาหลายจุดในเขต ต.สาริกา และ ต.เขาพระอ.เมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ทำให้เกิดไฟลุกไหม้บนเขาชะพลูซึ่งเป็นรอยต่อ ต.เขาพระ และ ต.พรมหณีจนเกิดไฟไหม้ลุกลามตลอดทั้งคืน และยากต่อการเข้าระงับเหตุ เนื่องจากพื้นที่ไฟไหม้เป็นภูเขาสูง เจ้าหน้าที่ทำได้เพียงแนวกันไฟป้องกันไฟลามลงมาด้านล่างไม่ให้กระทบประชาชนและโรงเรียนนายร้อย จปร.
29 มี.ค. ช่วงเที่ยงเกิดกระแสลมแรงพัดไฟที่ลุกไหม้บนเขาชะพลูไปที่เขาแหลมซึ่งอยู่ติดกันและอยู่ด้านหลังโรงเรียนนายร้อยจปร.อย่างรวดเร็ว
เวลา 15.00 น. นายกองโทอิสรา สุขแจ่มใส นายอำเภอเมืองนครนายก ประสาน อบต. ผู้นำหมู่บ้านให้ระวังเหตุกรณีบ้านติดพื้นที่ดังกล่าว
เวลา 21.00 น. นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟไหม้ พร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยประกอบด้วย รถสูบน้ำระยะไกลรถดับไฟป่ารถส่องสว่าง รถน้ำ รถกู้ภัยเล็ก ออกปฎิบัติการดับไฟป่า ในขณะที่กรมป้องกันสาธารณภัยจัดเฮลิคอปเตอร์สนับสนุนภารกิจดับไฟ
30 มี.ค. เวลา 07.00 น. สถานการณ์ไฟไหม้เขาแหลมเริ่มดีขึ้นหลือเป็นเพียงกองไฟเป็นหย่อมๆ จากนั้นมีการนำเฮลิคอปเตอร์ทิ้งน้ำเพื่อดับไฟป่า 3 ลำ ได้แก่ เฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย ปภ. KA-32 1 ลำ ทิ้งน้ำ 20 เที่ยว เฮลิคอปเตอร์หน่วยทหาร 1 ลำ ทิ้งน้ำ 20 เที่ยว เฮลิคอปเตอร์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ 1 ลำ ทิ้งน้ำ 50 เที่ยว รวม 3 ลำ ทิ้งน้ำดับไฟป่ารวม 154,500 ลิตร จนกระทั่งเวลา 18.00 น. สถานการณ์ไฟป่าอยู่ระหว่างการควบคุมเพื่อจำกัดพื้นที่
เวลา 23:00 หลังมีลมพัดผ่านเมื่อช่วงค่ำส่งผลให้ไฟเริ่มปะทุขึ้นอีกครั้งในพื้นที่เขานางดำ ต.เขาพระ เจ้าหน้าที่ได้นำรถดับเพลิงหลายสิบคันมาประจำตามจุดเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดการปะทุ พื่อปกป้องทรัพย์สินและชีวิตชาวบ้านในหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น
ในขณะที่กระทรวงทรัพย์กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จะนำเฮลิคอปเตอร์มาช่วยสนับสนุนเพิ่มอีก 1 ลำ ซึ่งจะบินตรงมาจาก จ.เชียงใหม่ คาดจะถึง จ.นครนายก ประมาณเที่ยงวันนี้
ขอบคุณภาพ เพจ ที่นี่นครนายก