โรงเรียนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในโลก

ช่วงอายุที่เหมาะที่สุดสำหรับพัฒนาการด้านสมองคือช่วงแรกเกิดถึ 5 ขวบ ในช่วงนี้สมองจะกักเก็บข้อมูลต่างๆ ได้มากมาย และเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการสอนภาษาที่ 2 ที่ 3 แต่ภาษาที่สำคัญภาษาหนึ่งคือภาษาของความยั่งยืน

เป้าหมายในการสอนภาษาของความยั่งยืน คือการที่นักเรียนสามารถนำใช้ให้สอดคล้องกับโลกใบนี้ กับพ่อแม่ เพื่อนๆ และอาชีพของพวกเขาเองในอนาคต รีเบคก้า เอมิส (Rebecca Amis) ผู้ร่วมก่อตั้งโรงเรียนเอกชน MUSE ให้สัมภาษณ์กับ Green Matters

MUSE โรงเรียนเอกชนที่เน้นการเรียนการสอนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน สำหรับนักเรียนอายุตั้งแต่ 2 ขวบ ถึง 18 ปี ก่อตั้งขึ้น ในปี 2549 ด้วยความคิดของน้องสาวของรีเบคก้า ซูซี เอมิส แคเมรอน (Suzy Anis Cameron) นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและนักแสดง ที่อยากเปิดโรงเรียนที่มุ่งเน้นด้านสิ่งแวดล้อมในรัฐแคลิฟอร์เนีย

MUSE เริ่มต้นด้วยการลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว รวมไปถึงการห้ามนำเข้าของผู้ปกครองด้วยเพื่อไม่ให้เกิดการทิ้งขยะพลาสติกในโรงเรียน ก่อนจะตามด้วยการปลูกพืชผักอินทรีย์เพื่อนำมาปรุงอาหารให้นักเรียน

แรกเริ่มโรงเรียนยังมีอาหารประเภทเนื้อสัตว์ แต่หลังจากได้เรียนรู้เพิ่มเติมถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของภาคปศุสัตว์ โรงอาหาร MUSE ก็เปลี่ยนเป็น Plant-Based 100% อาหารทุกชนิดจะถูกปรุงขึ้นจากพื ปลอดเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทุกชนิด แบบที่ MUSE เรียกว่า “One Meal a Day for the Planet”

ไม่ใช่แค่อาหารแบบ Plant-Based แต่ MUSE ได้เปลี่ยนให้เป็นโรงอาหารสีเขียว คือการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้แทนไฟฟ้า 100% ทำให้ตู้เย็น ตู้แช่แข็ง และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ถูกขับเคลื่อนด้วยพลังงานธรรมชาติ

ด้วยการจัดการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้โรงอาหาร MUSE ได้รับรางวัล Greenest Restaurant in the World 2016 (100% Plant-Based. 100% Solar. Near-Zero-Wasted) จากองค์กรสนับสนุนร้านอาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Restaurant Association)

นอกจากโรงอาหารสีเขียวแล้วตัวอาคารเรียนของ MUSE ได้รับการออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานคุ้มค่าที่สุด มีการติดฉนวนกันความร้อนเพื่อลดการเปิดใช้เครื่องปรับอากาศในหน้าร้อน และเทคนิคเชื่อมรอยต่อที่ป้องกันไม่ให้อากาศเย็นจากภายนอกเข้ามาในอาคารในฤดูหนาว นอกจากนี้ยังออกแบบให้ห้องเรียนได้รับแสงธรรมชาติสูงสุด

MUSE ยังเป็นโรงเรียนพลังงานแสงอาทิตย์ที่ขับเคลื่อนด้วยผลงานศิลปะ MUSE Sun Flowers – โซล่าเซลล์รูปดอกไม้ ที่มีถึง 5 ชิ้นงาน สามารถชดเชยพลังงานไฟฟ้าในโรงเรียนได้ถึง 90% ซึ่งผลงานชิ้นนี้ได้รับการออกแบบโดย เจมส์ แคเมร่อน (James Cameron) ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องอวตาร (Avatar) และสามีของซูซี่ ผู้ร่วมก่อตั้งโรงเรียน

ไม่เพียงแต่สถาปัตยกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ MUSE School ยังสอดแทรกบทเรียนการพัฒนาอย่างยั่งยืนเข้าไปในหลักสูตรด้วยวิชา Seed to Table เป็นการสอนนักเรียนให้เข้าใจถึงความเชื่อมโยงกันของสุขภาพของพวกเขาและสุขภาพของสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีสอนในทุกชั้นเรียนตั้งแต่แรกเข้า 2 ขวบ จนถึง .6

บวกกับการปลูกฝังให้นักเรียนนำทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ให้คุ้มค่า เช่น นักเรียนต้องช่วยกันประดิษฐ์แผนที่ หรือลูกโลกเพื่อประกอบการเรียนการสอนกันขึ้นมาเอง เพื่อลดคาร์บอนฟุตปริ้นท์จากการซื้อของใหม่

เนื่องด้วย MUSE เป็นโรงเรียนเอกชนขนาดเล็ก จำกัดจำนวนนักเรียน รีเบคก้าจึงให้คำแนะนำผู้ปกครองที่ไม่สามารถส่งลูกเข้าเรียนที่นี่ได้ว่า ผู้ปกครองสามารถปลูกฝังการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้เด็กๆ ได้ด้วยการเริ่มจากการปลูกผักสวนครัวที่บ้าน ให้เด็กๆ มีส่วนร่วมในการปลูก เก็บเกี่ยว และทำอาหารราวกับว่าพวกเขากำลังทำการวิจัยบางอย่าง และเริ่มทานอาหารแบบ Plant-Based มากขึ้น เพราะท้ายที่สุดสถาบันครอบครัวคือกลไกสำคัญในการช่วยช่วยออกแบบชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้กับเด็กๆ ได้

“ผู้ปกครองต้องการโรงเรียน แต่เราต้องการโลกที่เด็กๆ สามารถอยู่ได้อีกนาน” รีเบคก้า เอมิส ผู้ร่วมก่อตั้ง MUSE School CA

ที่มา : https://www.museschool.org

https://www.greenmatters.com/p/muse-school-rebecca-amis-greenest-restaurant

Related posts

การเกษตรรักษ์โลก ‘แหนเป็ด’ ซูเปอร์ฟู้ดแห่งอนาคตโปรตีนสูง 45%

เป้าหมาย NDC ความมุ่งมั่นของไทย ก้าวย่างสู่ Net Zero และโลกยั่งยืน

ประโยชน์การเข้าร่วมเวที COP29 โอกาสเข้าถึงเงินช่วยเหลือของไทย