24 ก.พ.2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดนโยบาย ‘สิ่งแวดล้อมไทยก้าวหน้า’ ด้วยการยืนแถลงกลางน้ำชุมชนปากคลองรังสิต ปทุมธานี เพื่อแสดงให้เห็นว่าปัญหาโลกร้อนเป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าที่คิด
รูปแบบการแถลงเชิงสัญลักษณ์นี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการกล่าวถ้อยแถลงของรัฐมนตรีการต่างประเทศ ของประเทศตูวาลู ในการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP 26)
จากตูวาลูประเทศเกาะเล็กๆ ที่ได้รับผลกระทบโลกร้อนเสี่ยงจมไร้ซึ่งแผ่นดินอาศัย สู่คลองรังสิตที่ปัจจุบันน้ำท่วม 5-6 เดือนต่อปี มากกว่าอดีตที่ท่วมเพียงน้ำท่วม 2-3 เดือนต่อปี สอดคล้องกับข้อมูลภาพรวมของประเทศ เมื่อปี 2549 พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากมี 10 ล้านไร่ ตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 27 ล้านไร่ และสอดคล้องกับรายงานของธนาคารโลกที่ระบุว่าปี 2011-2045 (พ.ศ. 2554-2588) โลกร้อนจะสร้างความเสียหายต่อภาคเกษตรไทยราว 3 ล้านล้านบาท ผลิตพืชต่างๆ ได้น้อยลง เช่น ข้าวน้อยลง 13% มันลดลง 21% อ้อยลดลง 35%
นายพิธาระบุ สิ่งที่รัฐบาลประกาศว่าสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับสหประชาชาตินั้น ต่างจากการเก็บข้อมูลและการประเมินโดยองค์กรระหว่างประเทศ ที่บอกว่าการรับมือในเรื่องนี้ของไทยอยู่ในระดับ “ไม่เพียงพอขั้นวิกฤติ” (Critically Insufficient) และหากทำตามนโยบายปัจจุบันของรัฐบาลต่อไป จะทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น 4 องศาเซลเซียส ในขณะที่ความพยายามของทั้งโลก ต้องการให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส
ที่ผ่านมามักมีการรณรงค์ว่าปะญหาโลกร้อน ‘เริ่มที่ตัวเรา’ แต่การจะแก้ไขได้ในระดับประเทศนั้นไม่ใช่แค่ความร่วมมือของประชาชนเพียงอย่างเดียว แต่รัฐต้องมีนโยบายสาธารณะทั้งเชิงรับและเชิงรุก และไม่มองว่าเรื่องนี้เป็นแค่นโยบายสิ่งแวดล้อม แต่มองเป็นนโยบายด้านเศรษฐกิจและนโยบายต่างประเทศไปพร้อมกัน
“ปัญหาโลกร้อนเป็นภัยความมั่นคงของยุคปัจจุบัน นี่คือศัตรูตัวจริงของรัฐบาล ไม่ใช่ความมั่นคงทางทหารแบบเดิมอีกต่อไป ดังนั้น พรรคก้าวไกลต้องการประกาศศึกกับภาวะโลกร้อน โดยมีนโยบายที่ชัดเจน ทั้งเชิง ‘รับ’ เพื่อรับมือผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้วและมีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้นจากสภาพอากาศที่แปรปรวน และเชิง ‘รุก’ ที่รุกไปที่ต้นตอของปัญหา เพื่อลดก๊าซเรือนกระจกให้ได้จริง ควบคู่กับสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับการรักษาสิ่งแวดล้อม” พิธากล่าว
สำหรับชุดนโยบาย ‘สิ่งแวดล้อมไทยก้าวหน้า’ ของพรรคก้าวไกล แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือนโยบายเชิงรุกและเชิงรับ ต่อไปนี้
นโยบายเชิงรุก: เร่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 (พ.ศ. 2593)
ด้านการผลิตไฟฟ้า = เปิดตลาดเสรี ส่งเสริมไฟฟ้าสะอาดพลังงาน
1. ‘หลังคาสร้างรายได้’ เปิดเสรีโซลาร์เซลล์ครัวเรือน
2. ‘ปลดล็อกระเบียบ’ สร้างตลาดซื้อ-ขายไฟฟ้าเสรีของประชาชน
3. ‘ประกันราคา’ ไฟฟ้าพลังงานสะอาด สำหรับครัวเรือน
4. ‘ปลดระวางโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งหมด’ ภายใน พ.ศ.2580
ด้านการเกษตร = ป้องกันการเผา เปลี่ยนก๊าซเรือนกระจกเป็นรายได้
5. กำจัดการเผาภายใน 3 ปี งบปรับตัวตำบลละ 3 ล้านบาท 1,000 ตำบล
6. เปลี่ยนการเผาเป็นเงินในกระเป๋าเกษตรกร งบอุดหนุนปลูกข้าว “เปียกสลับแห้ง” แทนการเผา สร้างอุตสาหกรรมแปรรูปฟางข้าว-ซังข้าวโพดแทนการเผา
7. 1 ฟาร์มปศุสัตว์ 1 บ่อหมักก๊าซชีวภาพ (เป็นอย่างน้อย) เปลี่ยนมีเทนเหลือทิ้งให้เป็นพลังงาน
ด้านอุตสาหกรรม = จำกัดการปล่อยมลพิษอุตสาหกรรม
8. กำหนดเพดานและเปิดตลาด (Cap & Trade) การปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายอุตสาหกรรม เปิดตลาดค้าขายแลกเปลี่ยนโควตา
9. PRTR – กฎหมายเปิดข้อมูล บังคับให้ทุกโรงงานเปิดข้อมูล สารพิษอันตรายและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ด้านการขนส่ง = ปรับปรุงการขนส่งให้สะอาดที่สุด
10. รถเมล์ไฟฟ้าทุกจังหวัด ภายใน 7 ปี
11. ‘วันขนส่งฟรี’ รณรงค์ลดใช้รถยนต์ส่วนตัว
12. เปลี่ยนรถไฟดีเซลเก่าเป็นไฟฟ้า
13. ตรวจสภาพรถยนต์ฟรี! ปีละครั้ง
14. ควบคุมปริมาณรถบรรทุกในเขตเมือง
ด้านขยะอาหาร = Zero Food Waste กำจัดขยะอาหารเหลือทิ้ง
15. เพิ่มค่าขยะอาหารในห้างใหญ่ บังคับแยกขยะ-เก็บข้อมูล-ทำบัญชีขยะอาหาร
16. อาหารเหลือทิ้งแลกสินค้าเกษตรอินทรีย์ ส่งเสริมให้ชุมชนทำปุ๋ยจากอาหารเหลือทิ้ง เพื่อเป็นคูปองซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์ ขยะเหลือทิ้ง 1 กิโล แลกได้ 1 บาท
ด้านพื้นที่สีเขียว = ป่าแลกเงิน เพิ่มพื้นที่สีเขียว
17. ต้นไม้ปลดหนี้ รัฐจ่ายหนี้ค้างให้เกษตรกร ในฐานะค่าเช่า แลกกับใช้ที่ดินของเกษตรกรปลูกไม้ยืนต้น
18. ต้นไม้บำนาญ คนปลูกได้รับรายได้เป็นรายเดือน 1,200 บาท/ไร่/เดือน เป็นเวลา 20 ปี
19. ต้นไม้ทุนรัฐบาล อุดหนุนงบเกษตรกรปลูกป่า 4,000 บาท/ไร่ ในช่วงเวลา 3 ปี
20. ต้นไม้ชุมชน อุดหนุนปลูกป่าชุมชน 4,000 บาท/ไร่/ปี จำนวน 1,000 ชุมชน
21. เพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง ด้วยการเพิ่มงบท้องถิ่น ผ่านนโยบายทุกจังหวัดไทยก้าวหน้า
เชิงรับ: ช่วยประชาชนรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นแล้ว
22. กองทุนปรับตัวรับมือภัยพิบัติ-น้ำท่วม
23. เตือนภัยทั่วถึง ครอบคลุมทุกท้องถิ่น
24. ท้องถิ่นประกาศเขตพื้นที่ภัยพิบัติได้
25. ทบทวนแผนการบริหารจัดการน้ำทั้งหมดรายลุ่มน้ำ
26. ศูนย์พักพิง-อพยพมีมาตรฐาน ท้องถิ่นมีอำนาจและงบประมาณ
27. ชดเชยเป็นธรรมและทันควัน
28. ประกันภัยพืชผล ฟรี ในทุกพื้นที่รับน้ำ
นอกจากนโยบายด้านโลกร้อน พรรคก้าวไกลยังมีนโยบายสิ่งแวดล้อมในมิติอื่นๆ ที่จะชี้แจงรายละเอียดหลังจากนี้ เช่น การจัดการขยะ ปัญหากัดเซาะชายฝั่ง ปัญหาช้างป่า ปัญหามลพิษทางอากาศ ปัญหามลพิษทางแสง