มาเลเซียแอร์ไลน์ประเดิม บินไปกลับมาเลย์-สิงคโปร์ ด้วยเชื้อเพลิงยั่งยืนลดโลกร้อน

สายการบินแห่งชาติมาเลเซียประเดิมเที่ยวบินแรกตรงกับวันสิ่งแวดล้อมโลกเพื่อ โดยประกาศให้โลกรู้ว่าพวกเขาจะใช้พลังงานหมุนเวียนในเที่ยวบินมาเลย์-สิงคโปร์ ที่ทำจากน้ำมันประกอบอาหารและวัสดุเหลือใช้ ซึ่งสามารถช่วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 80%

The Sun Daily/Bernama รายงานว่า Malaysia Airlines จะดำเนินการเที่ยวบินโดยสารครั้งแรกโดยใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) ระหว่างกัวลาลัมเปอร์และสิงคโปร์ในวันที่ 5 มิ.ย. ซึ่งตรงกับวันสิ่งแวดล้อมโลกพอดี

บริษัทกล่าวว่า เที่ยวบินที่ขับเคลื่อนโดย SAF จากกัวลาลัมเปอร์ไปสิงคโปร์คือเที่ยวบิน MH603 และจากสิงคโปร์ไปยังกัวลาลัมเปอร์คือเที่ยวบิน MH606 เที่ยวบินเหล่านี้คือเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 โดยใช้ส่วนผสมของ SAF ประมาณ 38% และเชื้อเพลิงเครื่องบินเจ็ตแบบธรรมดา

คำแถลงของ Malaysia Airlines ระบุว่า “ตัวเลือกเชื้อเพลิงที่ยั่งยืนนี้ ซึ่งทำจากของเสียหมุนเวียน 100% และวัตถุดิบตกค้าง (เช่น น้ำมันสำหรับประกอบอาหาร) สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 80%” 

บริษัทชี้ว่า โครงการนี้่ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของสายการบินแห่งชาติมาเลเซียที่มุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืนและเป็นความก้าวหน้าสำคัญในการบรรลุแหล่งเชื้อเพลิงที่สะอาดและใช้งานได้มากขึ้นสำหรับเที่ยวบินปกติภายในปี 2025

Malaysia Airlines เชิญแขกและผู้ให้การสนับสนุนด้านความยั่งยืนให้เดินทางในเที่ยวบินสำคัญ ๆ แขกสามารถจองได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 4 มิ.ย. เพื่อรับส่วนลดสูงสุดถึง 15% เมื่อเดินทางกับเที่ยวบินเหล่านี้

จากข้อมูลของ  Aviation: Benefits Beyond Borders ปัจจุบัน เครื่องบินขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงการบินเหลว ซึ่งส่วนใหญ่มาจากแหล่งเชื้อเพลิงฟอสซิล แต่มีเชื้อเพลิงชนิดใหม่ได้รับการพัฒนาขึ้นซึ่งมีศักยภาพในการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิของการบินได้อย่างมาก

เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAFs) ซึ่งมักเรียกกันว่า “เชื้อเพลิงชีวภาพยุคหน้า” หรือ “เชื้อเพลิงชีวภาพขั้นสูง” สามารถผสมกับน้ำมันก๊าดแบบเดิมและมีการใช้งานแล้วในเที่ยวบินเชิงพาณิชย์หลายแห่ง

การใช้ SAF ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์โดยรวมได้อย่างมากเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยในบางกรณีเกิน 80% ซึ่งรวมเอาการปล่อยมลพิษที่เกิดขึ้นในการผลิต SAFs แล้วด้วย

นอกจากนี้ คาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกดูดซับระหว่างการเติบโตของมวลชีวภาพเพื่อหมัก SAF จะเทียบเท่ากับปริมาณก๊าซที่เกิดขึ้นโดยประมาณเมื่อเชื้อเพลิงถูกเผาไหม้ในเครื่องยนต์สันดาปและกลับสู่บรรยากาศ  

ปัจจุบัน SAF มีราคาแพงกว่าเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่นแบบเดิม มูลประมาณตั้งแต่ 2 เท่าหากผลิตจากของเสียบางส่วน ไปจนถึง 6-10 เท่าถ้าทำจากเชื้อเพลิงสังเคราะห์ที่ใช้การดักจับคาร์บอน 

ราคาที่แพงสาเหตุหลักมาจากการผลิตขนาดเล็ก และด้วยความที่มันยังใหม่และมีราคาแพงและยังมีปริมาณน้อย จึงมีอัตราส่วนการใช้แค่ 0.01% ของการใช้เชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่นทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีการสร้างโรงงานผลิต SAF เพิ่มขึ้น และสายการบินลงนามสัญญาซื้อเชื้อเพลิงแบบนี้มาใช้มากขึ้น ทุนที่ช่วยหนุนจะทำให้ SAF มีราคาถูกลงในอนาคต

ข้อมูลจาก

  • “Malaysia Airlines to operate first passenger flight powered by sustainable fuel”. (05- 30- 2022). The Sun Daily/Bernama.
  • “What is sustainable aviation fuel?”. aviationbenefits.org.

Related posts

กรรมการชาติเห็นชอบร่างพรบ.โลกร้อน เดินหน้าสู่เศรษกิจคาร์บอนต่ำ

ฝุ่น PM2.5 พุ่ง ‘หอฟอกอากาศระดับเมือง’ คืนชีวิตให้คนกรุง อย่างไร

ชุบชีวิต ‘ขยะทะเล’ เพิ่มมูลค่า ชุมชนยั่งยืน ลดโลกร้อน