โลกร้อนเผาชีวิต ‘ไลเคน’ กระทบระบบนิเวศอย่างลึกซึ้ง

สาหร่ายเป็นมากกว่าแค่ฝ้าสีเขียวที่ปรากฏบนผนังตู้ปลา มันเป็นพืชขนาดเล็กเมื่อรวมกับเชื้อราสามารถก่อตัวเป็นโครงสร้างที่เรียกว่า ไลเคน มันเติบโตได้ทุกที่ตั้งแต่ทุ่งทุนดราในแถบอาร์กติกไปจนถึงเปลือกไม้ในบ้านของเรา และพวกมันทำทุกอย่างตั้งแต่สร้างออกซิเจนไปจนถึงเป็นอาหารสำหรับกวางเรนเดียร์

ผลการศึกษาใหม่พบว่า ความสามารถในการปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไลเคนเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ ในช่วงหลายล้านปี นั่นหมายความว่าสาหร่ายเหล่านี้มีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนอย่างรวดเร็ว และพวกมันอาจทำให้ไลเคนต้องพบหายนะไปด้วย

แมททิว เนลเซน (Matthew Nelsen) นักวิทยาศาสตร์การวิจัยของ Field Museum และหัวหน้าทีมผู้เขียนบทความใหม่ใน Frontier in Microbiology กล่าวว่า สิ่งที่พวกเขาค้นพบนั้น “แย่มาก เลวร้ายอย่างยิ่ง” เนลเซนกล่าวว่า “เราพบว่าอัตราที่คาดการณ์ไว้ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบันนั้นสูงกว่าอัตราที่สาหร่ายเหล่านี้มีวิวัฒนาการมาในอดีตอย่างมาก ซึ่งหมายความว่ามันจะมีช่วงเวลาบางช่วงที่สภาพอากาศมีแนวโน้มที่จะไม่เอื้อกับพวกมัน”

ไลเคนนั้นจะประกอบด้วยสาหร่าย และกลุ่มสาหร่ายที่เนลเซนและเพื่อนร่วมงานตรวจสอบเรียกว่า Trebouxia มีไลเคนมากกว่า 7,000 ชนิดที่ประกอบด้วย Trebouxia ทำให้เป็นสาหร่ายที่พบบ่อยที่สุดในไลเคน หากโลกยังคงร้อนขึ้นตามอัตราที่คาดการณ์ไว้ มันจะร้อนเกินไปสำหรับ Trebouxia หลายสายพันธุ์ และอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ต่อไปอีก

สภาพภูมิอากาศของโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และไลเคน (รวมถึงสาหร่ายที่เป็นเชื้อเพลิง) สามารถอยู่รอดได้โดยการปรับให้เข้ากับอุณหภูมิใหม่ คำถามสำหรับเนลเซ่นและเพื่อนร่วมงานคือว่า Trebouxia สามารถพัฒนาได้เร็วพอที่จะตามให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยใหม่หรือไม่ ซึ่งกำลังเกิดขึ้นเร็วกว่าปกติมาก

แต่เนลเซนชี้ว่า ไลเคน (หรือสิ่งมีชีวิตใด ๆ) ที่รอดชีวิตจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไม่ได้เป็นเพราะความสามารถในการทนต่ออุณหภูมิใหม่, ปริมาณน้ำฝนที่แตกต่างกัน หรือการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลสุดขั้วเท่านั้น เมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง สัตว์และพืชสามารถแพร่กระจายไปยังสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ซึ่งพวกมันจะแข่งกับสายพันธุ์พื้นเมือง จนทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหายไปจากพื้นที่นั้นได้

การสูญเสียไลเคนอาจส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อระบบนิเวศที่อิงอาศัยพวกมัน เนลเซนกล่าวว่า “ไลเคนเป็นพืชพันธุ์ที่โดดเด่นที่กินสัดส่วน 7% ของพื้นผิวโลก พวกมันมีบทบาทในด้านวิถีของน้ำและความชื้นในระบบนิเวศโดยการรักษาความชื้น พวกมันยังมีบทบาทในการหมุนเวียนของคาร์บอนและไนโตรเจน และบางส่วนก็ถูกใช้โดยสัตว์เพื่อเป็นอาหารหรือทำรัง”

แม้จะมีการคาดการณ์ที่น่าตกใจ แต่เนลเซนหวังว่าการวิจัยนี้จะช่วยหนุนวิธีการทำนายผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งอาจช่วยนักวิทยาศาสตร์หาทางแก้ไขมันได้ และเขาหวังว่าการศึกษานี้จะทำให้เราทุกคนมีแรงจูงใจที่จะนำการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจังและทำงานอย่างเป็นระบบเพื่อควบคุมผลกระทบที่เลวร้ายที่สุด

เนลเซนสรุปสั้นๆ ว่า เราต้องทำให้มัน “ดีกว่านี้”

• เรียบเรียงจาก “Lichens are in danger of losing the evolutionary race with climate change”. (FEBRUARY 15, 2022). Field Museum. (Press release)

ภาพ Rosser1954/wikipedia.org

Related posts

กรรมการชาติเห็นชอบร่างพรบ.โลกร้อน เดินหน้าสู่เศรษกิจคาร์บอนต่ำ

ฝุ่น PM2.5 พุ่ง ‘หอฟอกอากาศระดับเมือง’ คืนชีวิตให้คนกรุง อย่างไร

5 ปีอุณภูมิโลกส่อทะลุ 1.5 องศา ไทยเร่งรับมือ 6 สาขาเสี่ยงระดับพื้นที่