นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ติดตามการประกอบกิจการถอดแยกซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อเอาวัสดุมีค่าไปขายในหลายจังหวัดยังพบการเผาซากผลิตภัณฑ์และเศษวัสดุที่เหลือจากการคัดแยก เช่น สายไฟ จอภาพแอลซีดี เศษพลาสติก โฟมฉนวนตู้เย็นซึ่งก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ
ได้แก่ ฝุ่นละออง PM2.5 ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซไฮโดรเจนคลอไรด์ ก๊าซฟอสจีน สารไดออกซิน ส่งผลกระทบต่อผู้ถอดแยกและประชาชนในชุมชนที่จะได้รับก๊าซพิษหรือฝุ่นละอองขนาดเล็กเข้าสู่ร่างกาย และการรับสัมผัสต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จะทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายและเป็นสารก่อมะเร็ง
ดังนั้น ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ จึงได้เดินหน้าจัดการปัญหาการเผาสายไฟขนาดเล็กในซากผลิตภัณฑ์เพื่อคัดแยกทองแดง ซึ่งชาวบ้านมักจะรวบรวมไปเผาในบ่อขยะหรือตามที่รกร้าง ทองแดงที่คัดแยกได้จะถูกขายให้ร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่ ซึ่งจะส่งต่อไปยังร้านรับซื้อของเก่ารายใหญ่ก่อนขายให้กับโรงหลอม โรงงานรีไซเคิลทองแดง
นายอรรถพลกล่าวว่า จากการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2565 ได้มีข้อเสนอ ดังนี้ 1. อปท. ออกข้อบัญญัติท้องถิ่นเพื่อควบคุมการเผาในที่โล่งและให้ประกอบกิจการถอดแยกอย่างถูกต้อง 2. ให้ อปท. รวมชุมชนและผู้ประกอบการขนาดเล็กจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนและสนับสนุนเครื่องจักรบดย่อยสายไฟเพื่อใช้คัดแยกทองแดงแทนการเผา 3. ให้มีการประชาสัมพันธ์ถึงอันตรายที่เกิดจากการเผาสายไฟและขยะอิเล็กทรอนิกส์
4. ห้ามการเผาสายไฟในที่โล่งอย่างเด็ดขาด 5.ให้ผู้ประกอบกิจการร้านรับซื้อของเก่าและโรงงานรีไซเคิลทองแดงส่งขายทองแดงที่ได้จากการเผาที่รับซื้อหรือมีครอบครองไว้ภายใน 60 วัน และให้ยกเลิกการรับซื้อทองแดงที่ได้จากการเผาอย่างเด็ดขาดต่อไป 6. ผู้ที่มีสายไฟขนาดเล็กให้ระบายไปสู่โรงงานหลอมทองแดง และหลังจากนี้จะมีการตรวจบังคับใช้กฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ทุกภาคส่วนเห็นด้วยและพร้อมให้ความร่วมมือตามแนวทางที่เสนอและจะร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) เพื่อแสดงเจตนารมย์ร่วมกับ คพ.
สำหรับโทษผู้เผาสายไฟจะมีความผิดตามกฎหมาย อาทิ พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ และผู้ที่รับซื้ออาจมีความผิดที่สนับสนุนการกระทำความผิด ซึ่งจะมีโทษทั้งจำคุกหรือการปรับ ขอให้ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือและมาร่วมมือกันในการป้องกันและควบคุมการคัดแยกทองแดงจากสายไฟให้เป็นไปอย่างถูกต้อง ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม
หน่วยงานที่เข้าหารือกับ คพ. ได้แก่ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) อบต. และเทศบาลในพื้นที่เสี่ยง จ.กาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี สมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบจ. เทศบาล อบต.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่า ผู้ประกอบกิจการร้านรับซื้อของเก่า ศูนย์รับซื้อทองแดง โรงหลอมและโรงงานรีไซเคิลทองแดง