สมุนไพรผนึกกำลังยาสมัยใหม่ สูตรสองขาฆ่าไวรัสโคโรน่า

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จีนใช้ยาแผนโบราณของจีน หรือ TCM เพื่อต่อสู้กับการระบาดของโรคร้ายแรง ช่วงที่โรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง (SARS) ระบาดเมื่อปี 2546 จีนก็ใช้ยาแผนโบราณช่วย และต่อมาเมื่อมีการระบาดของไข้หวัดนก หรือ H1N1 ยาแผนโบราณจีนก็มีบทบาทเช่นกัน

จากรายงานการศึกษาทางคลินิกเกี่ยวกับการรักษาโรคซาร์ส เมื่อปี 2546 พบว่าการเพิ่มการรักษาด้วยยาแผนโบราณซึ่งส่วนใหญ่ใช้ส่วนประกอบยาสมุนไพร สามารถช่วยลดอัตราการตายและช่วยให้อาการของผู้ป่วยวิกฤตดีขึ้น และบรรเทาอาการ เช่น หายใจลำบาก เมื่อเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนตะวันตกเพียงอย่างเดียว (1)

นอกจากผลการรักษาทางคลินิก ยังมีกระแสร่ำลือในหมู่ประชาชนด้วยว่าสมุนไพรบางชนิดมีสรรพคุณในการป้องกัน/รักษาโรค H1N1 เช่น โป๊ยกั๊ก  (Illicium verum) ทำให้ในปี 2552 ประชาชนควานหาโป๊ยกั๊กเพื่อนำมาป้องกันโรคดังกล่าวจนแพทย์ต้องเตือน

แต่เรื่องนี้เป็นความเชื่อที่มีมูล เพราะประมาณ 90% ของโป๊ยกั๊กทั้งโลก นำมาใช้สกัดกรดชิคิมิกซึ่งเป็นตัวกลางทางเคมีที่ใช้ในการสังเคราะห์ Oseltamivir หรือยา Tamiflu ที่ใช้รักษาใช้รักษาและป้องกันไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์เอ และ บี (2)

ในการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนประกาศแผนการอีกแนวทางหนึ่งสำหรับต่อสู้กับ COVID-19 เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 โดยแนะนำให้สถาบันการแพทย์รวมเอาแนวทางการรักษาแบบการแพทย์แผนจีนเข้ามาในสูตรด้วยพร้อม ๆ กับการรักษาแผนสมัยใหม่ เพราะด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตและอัตราการติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ของจีนคิดที่จะใช้ค็อกเทลสูตรยาที่เป็นการผสมผสานยาแผนโบราณของจีนกับยาแผนตะวันตก (3)

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ Zhang Boli  ที่ปรึกษาทั่วไปของโรงพยาบาล Wuhan Jiangxia Fangcai  พูดถึงการรักษาโรคปอดบวมจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ว่า ในการตรวจสอบและวิจัยทางคลินิกเขาพบว่าการแพทย์แผนจีนมีผลในการรักษาโดยเฉพาะการลดอาการไข้ และควบคุมไม่ให้โรคลุกลาม ลดปริมาณฮอร์โมน และลดภาวะแทรกซ้อน

“การแพทย์แผนจีนและตะวันตกมีจุดแข็งของตัวเอง และการรักษาด้วยยาจีนและตะวันตกแบบผสมผสาน … ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ดีที่สุด” Zhang Boli กล่าว

จากรายงานเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ มีผู้เข้าร่วมการรักษาด้วยยาแผนจีนมากกว่า 50,000 คน และได้ผลที่น่าพอใจ ต่อมาเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ Jiang jian ผู้อำนวยการกองการแพทย์ สำนักงานการแพทย์แผนจีนแห่งรัฐเปิดเผยว่า ในเวลานี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสใช้ยาแผนจีนแล้วถึง 60,107 ราย ทำให้มีผู้ใช้ยาแผนจีนรักษาแล้วถึง 85.2% (4)

Zhang Boli ทำการวิเคราะห์และพบว่าจำนวนผู้ป่วยที่ต้องสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาลดลงอย่างมากหลังจากรับประทานยาแผนจีน ส่วนผู้ป่วยบางคนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อแล้วมีบางรายได้ใช้ยาจีนโบราณในระยะแรก พบว่าภูมิคุ้มกันไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ และไม่ลดต่ำลง แต่ช่วยกระตุ้นกระบวนป้องกันของร่างกาย (3)

สูตรยาที่นำมาใช้ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ โดยเฉพาะสมุนไพร เช่น (3)

  1. สูตรยา Jinhua Qinggan Granule (จินฮวาชิง กั่ง ฟาง) เป็นยาแผนโบราณที่ผลิตขึ้นเพื่อนำมารักษาโรคไข้หวัดใหญ่ H1N1 รักษาอาการเป็นไข้ เจ็บคอ และอาการไอ ซึ่งเป็นอาการของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เช่นกัน ตัวยาสำคัญของสูตรนี้คือต้นสายน้ำผึ้ง (Lonicera japonica Thunb.) และต้นอวี๋เย่จินฮวา (Mussaenda Pubescens Ait.f.) ส่วนผสมอื่น ๆ เช่น เหลี่ยงเคี้ยว (Forsythia suspensa) มีสรรพคุณขับพิษ/ขับร้อน และรากต้นกิ๊กแก้ (Platycodon grandiflorus) มีสรรพคุณขับเสมหะ บรรเทาอาการแน่นหน้าอก คอบวมเจ็บ
  2. สูตรยา Huoxiang Zhengqi Shui (ฮั่วเซียง เจิ้งชี่ สุ่ย) เป็นยาน้ำสมุนไพรแผนโบราณ ยาสูตรนี้มีสรรพคุณทำให้เหงื่อออกท่วมตัวและลดความร้อนที่เกิดขึ้นในฤดูร้อนเพื่อลดความชื้นและควบคุมการทำงานของม้ามและกระเพาะอาหาร อาการเหล่านี้เป็นผลทำให้เกิดไข้หวัด และอาการปวดหัววิงเวียน ซึ่งเป็นอาการหนึ่งของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ตัวยาสำคัญของสูตรนี้คือ โกฐเขมา (Atractylodes lancea) รักษาอาการไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว ปลดปล่อย “ชี่” หรือพลังชีวิตให้เคลื่อนไหวได้สะดวกและลดอาการวิงเวียน, ผิวส้มตากแห้ง (Citri Reticulatae Pericarpium) อุดมด้วยวิตามินซี ช่วยขับเคลื่อนพลังชี่ให้สะดวกและลดเสมเหะ

  1. สูตรยาเซวี่ยปี้จิ้ง (Xue Bi Jing) เป็นยาสมุนไพรใช้สำหรับฉีด ช่วยรักษาอาการปอดบวมรุนแรง ซึ่งเป็นลักษณะอาการที่สำคัญของโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ส่วนประกอบสำคัญของยาสูตรนี้คือ คำฝอย (Carthamus tinctorius) มีสรรพคุณร้อนช่วยทำให้เลือดไหลเวียนสะดวก บรรเทาอาการบาดเจ็บภายในร่างกาย, รากเสาเย่า (Paeonia anomala) มีสรรพคุณช่วยทำให้เลือดไหลเวียนสะดวก, โกฐหัวบัว (Ligusticum striatum) มีสรรพคุณกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและขับลม และตังเซียม (Salvia miltiorrhiza) ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
  2. ถี่ไว่ เผยอวี้ หินวหวง (Bos taurus domesticus Gmelin) หรือว่า หนิวหวง คือ นิ่วตากแห้งของวัวซึ่งหายากมากและมีราคาแพงมาก มีสรรพคุณลดเสมหะ ลดความร้อนในร่างกาย ลดความร้อนในตับ ล้างพิษ นำมาใช้รักษาอาการเป็นไข้ตัวร้อน อาการวิงเวียน เจ็บคอ ซึ่งเป็นอาการหลัก ๆ ของโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ยาแผนโบราณเหล่านี้เป็นยาที่ถูกผลิตขึ้นแบบสำเร็จรูปพร้อมใช้งานแบบเดียวกับยาแผนปัจจุบันโดยไม่ต้องนำมาปรุงอีก สามารถซื้อหาได้ทั่วไป แต่การรักษาด้วยแพทย์แผนโบราณจีนยังมีข้อแนะนำจำเพาะอีก คือแต่ละพื้นที่/มณฑล จะมีคำแนะนำตัวยาและการรักษาที่แตกต่างกันไปบ้าง เนื่องจากแต่ละพื้นที่มีสภาพลมฟ้าอากาศที่ไม่เหมือนกัน

นอกจานี้ ยังมีคำแนะนำของหน่วยราชการบางแห่งให้ประชาชนหันมาใช้ยาสมุนไพรแผนโบราณเพื่อรักษาอาการที่เกี่ยวเนื่องกับโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยบอกสูตรตัวยารักษาแผนโบราณ เพื่อให้ประชาชนนำตัวยาไปปรุงและใช้ด้วยตัวเองอีกด้วย

อ้างอิง

  1. Rapid Response:Traditional Chinese medicine in the treatment of SARS Retrived from https://www.bmj.com/rapid-response/2011/10/29/traditional-chinese-medicine-treatment-sars
  2. Expert: Direct consumption of star anise does not prevent H1N1 influenza. Retrived from http://www.gov.cn/jrzg/2009-05/17/content_1316710.htm
  3. Traditional Chinese medicine has exact effects on mild cases and can also help treat severe cases Retrived from http://www.xinhuanet.com/2020-02/20/c_1125598825.htm
  4. Anti-epidemic highlights the role of traditional Chinese medicine (health focus) Retrived from http://society.people.com.cn/n1/2020/0221/c1008-31597294.html

Related posts

กรรมการชาติเห็นชอบร่างพรบ.โลกร้อน เดินหน้าสู่เศรษกิจคาร์บอนต่ำ

ฝุ่น PM2.5 พุ่ง ‘หอฟอกอากาศระดับเมือง’ คืนชีวิตให้คนกรุง อย่างไร

ชุบชีวิต ‘ขยะทะเล’ เพิ่มมูลค่า ชุมชนยั่งยืน ลดโลกร้อน