แผ่นกรองอากาศ HEPA ช่วยลดมลพิษจากควันไฟป่าได้มากถึง 74%

ผลการศึกษาออสเตรีเลียพบว่าเครื่องฟอกอากาศที่ใช้แผ่นกรองแผ่นกรองอากาศ HEPA สามารถลดมลพิษอากาศจากควันไฟป่าได้ 30-74%

องค์การวิจัยวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมแห่งเครือจักรภพ (CSIRO) เผยแพร่รายงานระบุว่าเครื่องฟอกอากาศที่ใช้แผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูง HEPA (High Efficiency Particulate Air Filter) สามารถปรับปรุงคุณภาพอากาศในที่ร่มได้ 30-74% ในช่วงที่ควันจากไฟป่าแบล็ก ซัมเมอร์ (Black Summer) ปกคลุมหลายพื้นที่ของออสเตรเลีย

ไฟป่าแบล็ก ซัมเมอร์ เกิดขึ้นระหว่างเดือนตุลาคม 2019 ถึงกุมภาพันธ์ 2020 เผาผลาญพื้นที่กว่า 240,000 ตารางกิโลเมตร คร่าชีวิตผู้คนโดยตรง 33 ราย และอีกเกือบ 450 รายเสียชีวิตจากผลกระทบของการสูดดมควันไฟ ในขณะที่ผู้มีอาการหอบหืดถูกนำส่งแผนกฉุกเฉินเพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับฤดูไฟป่าก่อนหน้า

ดร.อแมนดา วีลเลอร์ หนึ่งในทีมวิจัยระบุว่า การอยู่แต่ในอาคารเป็นเรื่องสำคัญ แต่ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่ช่วยป้องกันมลพิษได้ดีก็คือเครื่องฟอกอากาศที่ใช้แผ่นกรอง HEPA

ข้อสรุปนี้ได้มาจากการเฝ้าติดตามความเข้มข้นของ PM2.5 ทั้งในร่มและกลางแจ้ง โดยพบว่าบ้าน 9 หลังที่ใช้แผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (HEPA) มีระดับฝุ่นพิษพีเอ็ม 2.5 ลดลงอย่างน้อย 30%

แผ่นกรอง HEPA เป็นแผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูงที่สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็ก เช่น ฝุ่น PM2.5 เชื้อไวรัส เชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรีย ได้มากถึง 99.5% โดยมากมักแนะนำให้บุคคลเปราะบางใช้เพื่อลดการสัมผัสควัน

อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพแผ่นกรอง HEPA ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของบ่นรแต่ละหลังว่ามีประสิทธิภาพในการกันการแทรกซึมของควันจากภายนอกได้ดีแค่ไหน

ดร.วีลเลอร์กล่าวว่าไฟป่าเป็นภัยคุกคามต่อคุณภาพอากาศในออสเตรเลียที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นตัวแปรสำคัญในการเพิ่มความยากลำบากในการบรรเทาไฟป่า

 

ที่มา

Related posts

เป้าหมาย NDC ความมุ่งมั่นของไทย ก้าวย่างสู่ Net Zero และโลกยั่งยืน

ประโยชน์การเข้าร่วมเวที COP29 โอกาสเข้าถึงเงินช่วยเหลือของไทย

เร่งกองทุน Loss and damage ช่วยประเทศเปราะบางสู้วิกฤตโลกเดือด