Flood Map สนุก (และสยอง) กับแผนที่น้ำท่วมโลก

เมื่อเดือนมกราคม 2019 มีรายงานการวิจัยในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences ระบุว่า น้ำแข็งที่กรีนแลนด์ละลายเร็วกว่าที่คิดถึง 4 เท่า และตอนนี้พื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ของกรีนแลนด์ แทบจะไม่เหลือธารน้ำแข็งอีกแล้ว

ในเดือนเดียวกันของปีเดียวกัน Nature Communications  รายงานว่า ธารน้ำแข็งที่แคนาดาละลายอย่างรวดเร็ว จนเผยให้เห็นผืนดินที่ไม่เคยได้เห็นกันมานานถึง 40,000 ปี

เดือนกุมภาพันธ์ 2019 นิตยสาร Nature  ตีพิมพ์งานวิจัยที่ระบุว่า การละลายของน้ำแข็งส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศโลกในระดับที่ซับซ้อนกว่าที่เคยคาดการณ์กันไว้

และในเดือนเดียวกันของปีเดียวกัน UChicago พบว่าแผ่นน้ำแข็งของแอนตาร์กติกแตกออกมา เพราะอัตราการละลายของน้ำแข็งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และพบแอ่งทะลสาบที่เกิดจากการละลายของน้ำแข็งถึง 2,000 แห่งแล้ว

ข่าวพวกนี้เพียงแค่ผ่านมาและผ่านไป เหมือนเป็นเรื่องสามัญที่ทุกคนได้ยินได้ฟังมาตลอดไม่กี่ปีที่ผ่านมา จนเรียกว่ามันเป็น New normal แบบหนึ่งของชีวิตชาวโลกไปแล้ว

ดังนั้น หากน้ำแข็งทั่วโลกจะละลายอย่างรวดเร็ว แล้วเมืองสำคัญของโลกจะปริ่มน้ำ หรือกระทั่งจมน้ำ ชาวโลกก็อาจจะไม่รู้สึกรู้สาอะไร

ถ้าอย่างนั้น ก่อนที่น้ำแข็งละลายจะเอ่อล้นจนท่วมถึงคอ เรามาเล่นอะไรกันเพลินๆ ดีกว่า เผื่อที่จะคิดได้ว่า หากน้ำแข็งละลายพร้อมๆ กันขึ้นมาจริงๆ จะมีที่ไหนบ้างที่เราพอจะหนีขึ้นไปตากเนื้อตากตัวให้แห้งกันบ้าง?

ในโลกออนไลน์ มีแพล็ตฟอร์มจำนวนหนึ่งที่ช่วยให้เรา “เล่นสนุก” กับการคำนวณพื้นที่ที่จะถูกน้ำท่วม หากน้ำแข็งขั้วโลกและทั่วโลกเกิดละลายขึ้นมาจริงๆ

เรื่องนี้อาจจะสนุกกันหน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงๆ แม้เพียง 1 ใน 4 ของความเป็นไปได้ มันจะไม่ใช่เรื่องสนุกเลย เพราะมหานครส่วนใหญ่ของโลก ล้วนแต่ตั้งอยู่ริมหรือใกล้ชายฝั่งทะเล จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วม หรือจมอยู่ใต้ผืนทะเลได้ง่ายๆ กรุงเทพฯ เองก็เป็นหนึ่งในมหานครที่เสี่ยงจะจมบาดาลที่สุดแห่งหนึ่ง เช่นเดียวกับฮ่องกง โตเกียว สิงคโปร์ นิวยอร์ก มุมไบ เซี่ยงไฮ้ ซิดนีย์ และเมืองอื่นๆ อีกมากมาย 

หากน้ำแข็งทั่วโลกละลายจนหมด ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้น 70 เมตร

แพล็ตฟอร์มเหล่านี้มีอะไรบ้าง?

1. Flood Map : Water Level Elevation Map (Beta)

แผนที่ออนไลน์แบบอินเตอร์แอกทีฟ มีความง่ายๆ ด้วยระบบเบต้า จึงไม่ละเอียดนัก แต่ช่วยให้เราเห็นภาพคร่าวๆ ได้ว่า หากน้ำท่วมโลกในระดับต่างๆ เมืองชายฝั่งจะตกอยู่ในชะตากรรมใด สามารถใส่ตัวเลขระดับน้ำทะเลได้ระหว่าง 0 – 800 เมตร แต่เพื่อความสมจริงควรจะเติมตัวเลข  70 เมตร ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดของระดับน้ำทะเลหากน้ำแข็งละลายจนหมดโลก (ในความเป็นจริงโอกาสที่ละลายจนหมดมีน้อยมาก)

2. Global Flood Map | World Wide Map of Potential Flooding

เป็นแผนที่อินเตอร์แอกทีฟที่มีความละเอียดเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย อัตราหน่วยวัดเป็นนิ้ว ไม่ใช่ระบบเมตริก คงเพราะมีฐานในสหรัฐ สามารถใส่ระดับน้ำสูงสุดได้ 1,000 นิ้ว แผนที่มีการไล่ระดับสี ความสูงของภูมิประเทศ และมีข้อมูลประกอบ เช่น แต่ละประเทศจะมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลเอ่อท่วมมากน้อยแค่ไหน เช่น ประเทศไทยจะมีผู้ได้รับผลกระทบ 750,385 คน มากที่สุดคือ จ. ชลบุรี มี 219,164 คน อ. ศรีราชา 178,916 คน และหัวหิน  50,456 คน

3.  Surging Seas: Risk Zone Map – Climate Central

มีความละเอียดของแผนที่ในระดับดีมาก ไม่จำเป็นต้องใส่ตัวเลขในช่องเพื่อสร้างสถานการณ์เสมือนจริง เพียงแต่ลากดัชนีระดับน้ำขึ้นลง โดยมีตัวเลขระหว่าง 1 – 10 ฟุต หรือ 0.5 – 30 เมตร และสามารถดาวโหลดภาพของพื้นที่สมมติได้ ที่เด็ดสุดคือ มีตัวเลือกสถานการณ์สมมติประเภทต่างๆ คือ แสดงผลให้เห็นผลกระทบด้านสังคมหากน้ำท่วมในระดับนั้นๆ ผลกระทบต่อจำนวนประชากร ผลกระทบต่อชนกลุ่มต่างๆ ผลกระทบด้านรายได้ ด้านทรัพย์สิน และผลกระทบต่อสถานที่สำคัญที่เป็นหมายหลัก อย่างไรก็ตาม ออพชั่นเหล่านี้แสดงผลเฉพาะสหรัฐเท่านั้น  

เอาเข้าจริง น้ำแข็งขั้วโลกจะไม่ละลายพร้อมๆ กัน จนกลายเป็นสึนามิหรือเหมือนภาพยนตร์แนวโลกาวินาศ แต่ก็ใช่ว่าเราจะนั่งชิลไปเรื่อยๆ สถานการณ์ตอนนี้ คือ New normal  ที่คล้ายกับการต้มกบในหม้อน้ำเดือด กว่าที่กบจะรู้ตัวว่าถูกต้ม ก็คงสายเกินการณ์แล้ว

ไม่ถึงกับเสียชีวิต แต่ก็สิ้นเนื้อประดาตัวกันถ้วนหน้า

ภาพประกอบ – The Flood of Noah and Companions, by Léon Comerre, c. 1911. Oil on canvas. Fine Arts Museum of Nantes

Related posts

กรรมการชาติเห็นชอบร่างพรบ.โลกร้อน เดินหน้าสู่เศรษกิจคาร์บอนต่ำ

ฝุ่น PM2.5 พุ่ง ‘หอฟอกอากาศระดับเมือง’ คืนชีวิตให้คนกรุง อย่างไร

ชุบชีวิต ‘ขยะทะเล’ เพิ่มมูลค่า ชุมชนยั่งยืน ลดโลกร้อน