จีนเผชิญอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูล โดยปีนี้ต้องออกคำเตือนแล้ว 25 ครั้ง หลังจากเมื่อ ก.ค. ที่ผ่านมาเผชิญอากาศร้อนที่สุด
จีนต้องเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนในช่วงฤดูร้อนปีนี้อย่างหนัก ทั้งเจอคลื่นความร้อน ภัยแล้ง ฤดูน้ำท่วมใหญ่ที่เริ่มต้นเร็วกว่าปกติ และพายุไต้ฝุ่นแกมี (Gaemi) ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์และไต้หวันก่อนจะพัดเข้าสู่ชายฝั่งตะวันออกของจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิตร่วม 30 คน และสูญหาย 35 ราย ใน 8 เมืองของมณฑลหูหนานทางตอนใต้ของจีน โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่เข้าไปฟื้นฟูเมืองต่างๆ แล้ว
ทำให้ทางการจีนต้องอพยพประชาชนหลายแสนคนออกจากพื้นที่น้ำท่วมและดินถล่มในหลายจังหวัด ซึ่งสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติระบุว่า สภาพอากาศในประเทศจีนในปีนี้ “ผิดปกติจากปกติ” ส่งผลให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยทั่วประเทศสูงกว่าค่าเฉลี่ย 13.3% โดยสถานีตรวจอากาศ 30 แห่งบันทึกปริมาณน้ำฝนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม่น้ำสายหลัก 4 สายมีปริมาณน้ำฝนมากกว่าค่าเฉลี่ย แม่น้ำหวยเหอและลุ่มแม่น้ำเหลียวเหอมีปริมาณน้ำฝนมากกว่าค่าเฉลี่ยเป็นสองเท่า
สำหรับจีนเป็นประเทศผู้ปล่อยคาร์บอนรายใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดวิกฤตสภาพอากาศ ที่ผ่านมาจีนได้ให้คำมั่นที่จะปล่อยคาร์บอนให้ถึงจุดสูงสุดภายในปี 2030 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2060 ด้วยโครงการพลังงานหมุนเวียนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐอย่างทะเยอทะยาน การวิจัยที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้วแสดงให้เห็นว่าจีนกำลังสร้างกำลังการผลิตพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์มากกว่าประเทศอื่นๆ รวมกันเกือบสองเท่า
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติยังระบุด้วยว่า เดือน ก.ค.ที่ผ่านมาเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการสังเกตการณ์ในปี 2504 และเป็น “เดือนที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์การสังเกตการณ์” อุณหภูมิอากาศเฉลี่ยในเดือน ก.ค.อยู่ที่ 23.21 องศาเซลเซียส สูงกว่าสถิติเดิมที่ทำได้ในปี 2560 ซึ่งอยู่ที่ 23.17 องศาเซลเซียส และทุกมณฑลในจีนรายงานว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในเดือน ก.ค.สูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของปีก่อนๆ อีกด้วย
คาดว่าอุณหภูมิที่สูงและฝนตกในประเทศจีนจะยังคงดำเนินต่อไปในอีก 10 วันข้างหน้า โดยทางการได้ประกาศเตือนภัยสีแดงสำหรับอากาศร้อนจัดที่สูงถึง 40 องศาเซลเซียสในเซี่ยงไฮ้ในวันศุกร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระบุว่าเมืองหางโจวอาจร้อนถึง 43 องศาเซลเซียส ฤดูไต้ฝุ่นจะดำเนินต่อไปในเดือน ส.ค.
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในวันที่ 1 ส.ค. ว่า ภาวะฝนตกหนักและน้ำท่วมที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่นแกมี ทำให้ 8 เมืองของมณฑลหูหนานถูกตัดขาดจากโลกภายนอกนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากโครงสร้างพื้นและโครงข่ายไฟฟ้าถูกทำลาย โดยเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ถนนหลายสาย ไฟฟ้า และการสื่อสารใน 8 เมืองในเขตซื่อซิงซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากพายุไต้ฝุ่นแกมีนั้นส่วนใหญ่ได้รับการฟื้นฟูแล้ว
สำหรับ พายุไต้ฝุ่นแกมีเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งในจีนในช่วงเย็นวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ด้วยความเร็วลม 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเคลื่อนตัวอย่างต่อเนื่องไปยังทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรง โดยนักพยากรณ์อากาศคาดว่า ปริมาณน้ำฝนอาจสูงถึง 150-250 มิลลิเมตร (6-10 นิ้ว) และอาจสูงสุดถึง 400 มิลลิเมตร (15 นิ้ว) ในพื้นที่สูงและตามแนวชายฝั่ง
ขอบคุณภาพจาก: https://www.voanews.com/a/typhoon-gaemi-hits-china-after-swamping-taiwan/7712595.html