ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันแอนตาร์กติกแห่งอาร์เจนตินา (IAA) เตือนว่า เพนกวินจักรพรรดิที่อาศัยอยู่ในทวีปแอนตาร์กติกาและทะเลที่เย็นยะเยือกของแถบขั้วโลกใต้ เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อย่างมากในอีก 30 ถึง 40 ปีข้างหน้า
ตามปกติเพนกวินจักรพรรดิจะวางไข่และกกลูกจนโตในช่วงฤดูหนาวและอาสัยแผ่นน้ำแข็งในหน้าหนาวในการสร้างรังเลี้ยงลูก ๆ ของพวกมัน ซึ่งอยู่ระหว่างเดือนเมษายน – ธันวาคม (ฤดูหนาวซีกโลกใต้สลับกับซีกโลกเหนือ)
แต่เพราะภาวะโลกร้อนและแถบขั้วโลกที่อุณหภูมิร้อนเร็วกกว่าที่อื่น ๆ อาจทำให้แผ่นน้ำแข็งก่อตัวช้าและละลายเร็วกว่าปกติ ส่งผลกระทบต่อวัฏจักรการผสมพันธุ์ของพวกมัน และแน่นอนส่งผลต่อจำนวนประชากรด้วย
มาร์เซลา ลิเบอร์เตลลี ผู้ศึกษาเพนกวิน 15,000 ตัวในอาณานิคมสองแห่งในแอนตาร์กติกา กล่าวกับ Reuters ว่า ถ้าน้ำไปถึงนกเพนกวินที่เพิ่งเกิดซึ่งยังไม่พร้อมที่จะว่ายน้ำและไม่มีขนนกกันน้ำ พวกมันก็จะตายจากความหนาวเย็นและจมน้ำตาย
ที่ผ่านมา องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) เตือนมาหลายสัปดาห์แล้วถึง อุณหภูมิที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 40 องศาเซลเซียส ในทวีปแอนตาร์กติกา หรือร้อนเท่า ๆ กับประเทศไทยในหน้าร้อน
แต่มันไม่ใช่แค่นั้น เมื่อร้อนจัดขนาดนี้มันจะมาพร้อมกับฝนในพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่ตั้งอยู่บนระดับความสูงที่สูงขึ้น และแม้กระทั่งอุณหภูมิที่สูงกว่า 0 องศาก็จะเกิดฝนตก นั่นหมายถึงไม่มีหิมะและน้ำแข็งจะละลายไปพร้อมกับฝน
นักวิทยาศาสตร์เตือน (และรับประกันว่ามันเกิดขึ้นแล้ว) “คาบสมุทรแอนตาร์กติก (สุดขั้วตะวันตกเฉียงเหนือใกล้กับอเมริกาใต้) เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่ร้อนเร็วที่สุดในโลก โดยอุณหภูมิเพิ่มขึ้นเกือบ 3 องศาในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา”
เพนกวินจักรพรรดิ เป็นเพนกวินสายพันธุ์เดียวที่ผสมพันธุ์ในช่วงฤดูหนาวของทวีปแอนตาร์กติก เพนกวินจักรพรรดิจะเดินทาง 50–120 กม. บนพื้นน้ำแข็งไปยังอาณานิคมผสมพันธุ์ซึ่งสามารถจุพวกมันได้หลายพันตัว พวกมันจะไม่สร้างรัง แต่จะฟักไข่บนพื้นน้ำแข็ง
แต่นี่คือภยันตรายของพวกมัน จำนวนประชากรลดลง 50% ในภูมิภาค Terre Adélie จากอัตราการตายที่เพิ่มขึ้นในนกที่โตเต็มวัย โดยเฉพาะเพศผู้ ในช่วงที่อากาศอบอุ่นเป็นเวลานานอย่างผิดปกติในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ซึ่งส่งผลให้พื้นที่น้ำแข็งในทะเลลดลง
แต่เมื่อขั้วโลกใต้เย็นเกินไปก็ใช่ว่าจะดี เพราะพบว่าอัตราความสำเร็จในการฟักไข่ลดลงเมื่อระดับน้ำแข็งในทะเลเพิ่มขึ้น การตายของลูกเพนกวินก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน สายพันธุ์นี้จึงถือว่ามีความไวสูงต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
การศึกษาของสถาบันสมุทรศาสตร์วูดส์โฮลในเดือนมกราคม 2009 และอีกครั้งในมิถุนายน 2014 พบว่า เพนกวินจักรพรรดิอาจถูกบีบให้สูญพันธุ์ภายในปี 2100 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก
ภายในปี 2100 อาณานิคมของเพนกวินจักรพรรดิทั้ง 45 แห่งจะมีจำนวนลดลง ส่วนใหญ่เกิดจากการสูญเสียถิ่นที่อยู่ การสูญเสียน้ำแข็งทำให้เกิดการลดปริมาณของกุ้งเล็ก ๆ หรือ “เคย” ซึ่งเป็นอาหารหลักสำหรับเพนกวินจักรพรรดิ
ข้อมูลจาก
• “Emperor Penguins could be extinct in ‘the next 30, 40 years’ due to climate change”. (May 6, 2022). Reuters.
• “Is the emperor penguin in danger of extinction due to the increase in temperature in Antarctica?” (April 26, 2022
). Infobae.
• Wikipedia contributors. “Emperor penguin.” Wikipedia, The Free Encyclopedia. Wikipedia, The Free Encyclopedia, 8 Feb. 2022. Web. 8 May. 2022.
ภาพ Christopher Michel / https://www.flickr.com/photos/cmichel67/11235945713/