อาลัย ‘ดาบวิชัย’ คนบ้าปลูกต้นไม้ เส้นทาง 35 ปี ผู้ช่วยโอบอุ้มโลก

สิ้น ‘ดาบวิชัย’ คนบ้าปลูกต้นไม้ ผู้ปลูกต้นไม้มากกว่าสองล้านต้น ใน อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ พลิกผืนดินที่แห้งแล้ง สู่พื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์

พระไพศาล วิสาโล ประธานกรรมการมูลนิธิปลูกต้นไม้ ปลูกธรรมะ ได้โพสต์ไว้อาลัย ‘ดาบวิชัย’ ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ หรือ ‘ดาบวิชัย คนบ้าปลูกต้นไม้’ หลังจากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2566 ในวัย 77 ปี

ใจความว่า ขอไว้อาลัยแด่ “พ่อดาบวิชัย”

“หวังว่าท่านจากไปอย่างสงบ และไปสู่สุคติ สวรรค์ชั้นฟ้าที่ท่านสถิตเชื่อว่าจะมีต้นไม้อุดมร่มรื่น”
คำไว้อาลัย โดย พระไพศาล วิสาโล
ประธานกรรมการมูลนิธิปลูกต้นไม้ ปลูกธรรมะ (มตธ.)

ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ “คนบ้าปลูกต้นไม้” ที่พวกเรารู้จักกันดี ตลอดชีวิตของท่าน ได้ปลูกต้นไม้ มากกว่าสามล้านต้น และเป็นแรงบันดาลใจให้ “คนบ้าปลูกต้นไม้” รุ่นต่อๆ มา แม้จนวินาทีสุดท้าย…

สำหรับ ร.ต.ต.วิชัย หรือที่รู้จักกันในนาม “ดาบวิชัย” เป็นที่รู้จักกันในสังคมไทย จากการที่เขาเป็นผู้ปลูกต้นไม้มากกว่าสองล้านต้น ใน อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ จนสามารถทำให้ อ.ปรางค์กู่ อำเภอที่เคยจัดว่าแห้งแล้งที่สุดแห่งหนึ่ง ปัจจุบันเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์

ตัวเขาเคยกล่าวไว้ว่า “ผมจากไป แต่ต้นไม้ยังอยู่”

ภาพจาก: เพจ ดาบวิชัย คนบ้าปลูก

“ดาบวิชัย” ร.ต.ต.วิชัย เกิดเมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2489 ที่ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เป็นบุตรคนที่สามในจำนวนทั้งหมด 6 คน บิดามารดามีอาชีพชาวนา ฐานะทางบ้านจึงยากจน…เขาจึงต้องรับจ้างทำงานสารพัด ไม่ว่าจะเป็นกรรมกรก่อสร้าง จับกัง กระทั่งได้ศึกษาต่อที่โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย

หลังจบโรงเรียนพลตำรวจ 3 จ.นครราชสีมา ในปี 2511 ก็ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ ประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองศรีสะเกษ ต่อมาในปี 2513 ย้ายมาประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอปรางค์กู่

กระทั่งในปี 2548 “ดาบวิชัย” ได้รับพระราชทานยศเป็นกรณีพิเศษ เป็น “ร้อยตำรวจตรี” จากการอุทิศตนต่อประเทศชาติ จนเกษียณอายุราชการ ในปี 2549 ขณะดำรงตำแหน่งผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรอำเภอปรางค์กู่

ทั้งนี้ ดาบวิชัยได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ 4 ประจำปี 2545 ประเภทบุคคล จากบทบาทคนปลูกต้นไม้ที่ใส่มากกว่าเมล็ดพืชในผืนดิน ทุ่มเทแรงใจและความปรารถนาดีให้กับสังคม โดยไม่เรียกร้องผลตอบแทนใดใด เป็นตัวอย่างแห่งความเพียรพยายามที่ไม่เคยย้อท่อ ซึ่งไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในการสร้างความร่มรื่นและแหล่งอาหารให้กับชุมชนเท่านั้น แต่ยังสร้างโลกสีเขียวในหัวใจคนอีกด้วย

การเริ่มต้นปลูกต้นไม้ของ “ดาบวิชัย” ในฤดูฝน ปี 2531 ชาวบ้าน อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ จะเห็นภาพชายวัยกลางคน ผิวคล้ำแดด สวมแว่นสายตาสั้น ในมือมีถุงปุ๋ยและจอบหรือเสียมเล่มเล็ก ก้มๆ เงยๆ อยู่ริมถนนสายหลักที่นำเข้าสู่ตัวอำเภอ แลไม่ต่างกับเกษตรกรทั่วไปที่วุ่นงานอยู่ตามหัวไร่ปลายนา

ภายในถุงปุ๋ยนั้นมีเมล็ดพืชนับร้อยนับพัน ทั้งเมล็ดตาล สะเดา ขี้เหล็ก คูณ เขามักจะจอดมอเตอร์ไซค์คันเก่าลงชิดขอบทาง เดินเลียบริมถนนพร้อมถุงปุ๋ย ก้มลงขุดดินเพียงจอบเดียวแล้วหยอดเมล็ดพืชลงไป บางครั้งแทนที่จะเป็นถุงเมล็ดพืช ก็จะเป็นกระบะที่บรรจุกล้าไม้ซ้อนท้ายเพื่อนำมาปลูก เขาทำอย่างนี้ตลอดแนวถนนที่ทอดยาวนับสิบกิโลเมตร และตั้งแต่ฤดูฝนในปีนั้นก็นับเป็นเวลา 15 ปีแล้ว

นี่คือเรื่องราวความมุ่งมั่นของนายดาบตำรวจวิชัย สุริยุทธ บุคคลที่สร้างสีเขียวให้แก่เมืองปรางค์กู่ และเป็นช่วยเติมความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้ชุมชนด้วยผลผลิตจากป่าริมถนนที่ตนเพียรสร้าง

นายดาบตำรวจวิชัย เป็นผู้บังคับหมู่งานสอบสวน ประจำ สภ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ นอกเหนือจากงานประจำในแต่ละวัน ดต.วิชัย จะทำเรื่องประหลาดในสายตาชาวบ้านด้วยการขนถุงเมล็ดพืชหรือกล้าไม้ไปปลูกตามริมถนน ตามพื้นที่สาธารณะเป็นประจำ ทำเอาบางคนเรียกว่าเขาเป็นผีบ้า เพราะการปลูกต้นไม้อย่างนี้เมื่อไรจะได้กิน แต่คำวิจารณ์และนินทาไม่สามารถหยุดยั้งความตั้งใจได้ ดต.วิชัยได้

แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปต้นไม้นับวันโตขึ้น สร้างร่มเงาตามแนวถนนสายหลักและบนถนนอื่นๆ ทั่ว อ.ปรางค์กู่ รวมทั้งตามวัด โรงเรียน ที่ว่าการอำเภอ สถานที่สาธารณะต่างๆ กระทั่งที่หัวไร่ปลายนาที่เคยแห้งแล้ง

เขาเดินปลูกต้นไม้อยู่คนเดียว 5-6 ปี ราวปี 2535-2536 จึงค่อยมีคนเห็นว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นประโยชน์ และเริ่มได้รับความร่วมมือจากผู้คนในอำเภอปรางค์กู่มากขึ้นเรื่อยๆ ต้นตาลและต้นไม้อื่นๆ ส่วนใหญ่เริ่มเก็บผลผลิตไปใช้ได้ ตาลต้นเก่าๆ ในทุ่งนาถูกนำไปแปรรูปเป็นสินค้าด้านหัตถกรรม

นอกจากเป็นการสร้างอาหารแล้วยังสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี มีพรรณพืชที่หลากหลาย ตั้งแต่พืชล้มลุก พืชสวนครัว ไปจนถึงไม้ยืนต้นที่ใช้ประโยชน์ ดต.วิชัยยังได้จัดหาพันธุ์ไม้ จัดให้มีการมอบรางวัลเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านทั่วไปมาสนใจการทำไร่นาสวนผสม เพื่อกระตุ้นให้ชาวบ้านเกิดความคิดริเริ่ม จากการ “หาอยู่หากิน” เป็นการ “สร้างอยู่สร้างกิน”

ตลอดระยะเวลาในการทำหน้าที่ “ปลูกต้นไม้ในใจคน” ดาบวิชัยจึงเป็นคนต้นแบบของสายกรีนที่มุ่งมั่นเพื่อโลกที่สามารถปลูกต้นไม้มากกว่า 2 ล้านต้น

ดาบวิชัยเคยพูดเอาไว้ว่า “ผมว่าโลกของวัตถุเป็นสิ่งสมมติทั้งนั้นแหละครับ ความสุขที่แท้จริง ก็อยู่กับธรรมชาติ และรู้จักเคารพธรรมชาติ ต้นไม้นี่ผมจะต้องปลูก ปลูกไปเรื่อยๆ ปลูกจนกว่าจะตาย”

อ้อ กฤษฎาวัลย์ ลูกสาวของดาบวิชัย บอกถึงข้อความที่บิดาบันทึกฝากไว้ในช่วงท้ายของชีวิต ก่อนจากไปอย่างสงบ ในวัย 77 ปี ว่า

“พ่อให้บอกทุกคนว่า อย่าเซ่า ชีวิตมีอิหยังให้เฮ็ดอีกหลาย”

ที่มาข้อมูล:

เปิดประวัติ ดาบวิชัย ผู้ประกาศว่า จะปลูกต้นไม้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะตาย


https://www.greenglobeinstitute.com/Frontend/Content?ContentID=6c0d3bdc-a138-43d4-bcd5-ce3339507df4

Related posts

เป้าหมาย NDC ความมุ่งมั่นของไทย ก้าวย่างสู่ Net Zero และโลกยั่งยืน

COP29 มุ่งมั่นเป้าหมายทางการเงินใหม่ ชาติพัฒนาแล้วจ่าย 1 แสนล้าน

‘เฉลิมชัย’ พาหมูเด้งบุก COP29 เปิด Thailand Pavilion โชว์แก้โลกเดือด