ลำดับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ การต่อสู้โรคระบาดโควิด-19

HIGHLIGHTS

  • วันที่ 30 มีนาคม 2563 สถิติล่าสุด อิตาลี มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากเป็นอันดับ 1 ของโลก จำนวน 10,779 ราย ตามมาด้วย สเปน 6,803 ราย จีน 3,304 ราย อิหร่าน 2,640 ราย ฝรั่งเศส 2,606 ราย และสหรัฐ 2,484 ราย

  • นายเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ยกระดับความเสี่ยงของการระบาดของเชื้อโควิด-19 ไปยังทั่วโลก จากระดับสูงขึ้นเป็น ระดับสูงมาก ซึ่งเป็นการประเมินความเสี่ยงในการระบาดของโรคระดับสูงสุด
  • การปิดหวู่ฮั่นเป็นสิ่งบ่งชี้ที่สำคัญมากถึงความมุ่งมั่นที่จะยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคในสถานที่ที่มีการกระจุกตัวของประชากรมากที่สุด
  • วันที่ 31 มกราคม อิตาลีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นประเทศในสหภาพยุโรป หลังจากพบผู้ป่วย 2 รายแรกในในประเทศติดเชื้อโควิด-19
  • วันที่ 3 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นกักกันเรือสำราญ Diamond Princess ที่บรรทุกผู้โดยสารประมาณ 3,500 คน เอาไว้ท่าเรือโยโกฮาม่า เนื่องจากอดีตผู้โดยสารบนเรือติดเชื้อไวรัส
  • วันที่ 26 กุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น เรียกร้องให้มีการหยุดกิจกรรมกีฬาและวัฒนธรรมเป็นเวลาสองสัปดาห์ หลังจากญี่ปุ่นยืนยันการเสียชีวิตในประเทศรายที่สอง ท่ามกลางความกังวลว่าโอลิมปิกโตเกียวปี 2020 จะถูกยกเลิก

สำนักข่าวต่างประเทศทั้งรอยเตอร์และซีเอ็นเอ็นรายงานสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ COVID-19 (โควิด-19) ที่กำลังสร้างความหวั่นวิตกอย่างมากอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อในกว่า 56 ประเทศทั่วโลกนอกเหนือจากจีน โดยอ้างคำกล่าวของนายเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ยกระดับความเสี่ยงของการระบาดของเชื้อโควิด-19 ไปยังทั่วโลก จากระดับสูงขึ้นเป็น “สูงมาก” ซึ่งถือเป็นการประเมินความเสี่ยงในการระบาดของโรคระดับสูงสุด เพราะขณะนี้ เชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถระบาดได้ในทุกทิศทาง

“ขณะนี้เราได้ยกระดับการประเมินถึงความเสี่ยงที่เชื้อโควิด-19 จะระบาดไปยังทั่วโลก รวมทั้งความเสี่ยงจากผลกระทบของโควิด-19 ขึ้นเป็นระดับสูงมาก” นายเกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก แถลงข่าว ณ สำนักงานใหญ่ขององค์การอนามัยโลก นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ย้อนกลับไปลำดับเหตุการณ์เพื่อความเข้าใจต่อมหันตภัยไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โดยเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 นักวิทยาศาสตร์ในประเทศจีนได้ประกาศการค้นพบโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หลังจากนั้นทางการจีนพยายามควบคุมการระบาด และ WHO ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ในเบื้องต้นยังไม่มีการใช้มาตรการที่เข้มงวดนัก แต่มีการเสนอให้พิจารณาว่าการระบาดที่มณฑลหูเป่ยควรถูกพิจารณาเป็นภาวะฉุกเฉินหรือไม่

ต่อมาวันที่ 22 มกราคม 2563 สมาชิกของคณะกรรมการฉุกเฉินได้แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันว่าเหตุการณ์นี้ถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ (PHEIC) หรือไม่ แม้จะไม่มีข้อเสนอเรื่อง PHEIC แต่สมาชิกคณะกรรมการเห็นด้วยกับความเร่งด่วนของสถานการณ์และเสนอแนะให้มีการประชุมคณะกรรมการอีกครั้งในอีกไม่กี่วันหลังจากนั้นเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ต่อไป

หลังจากประกาศมาตรการกักกันใหม่ในหวู่ฮั่นเมื่อวันที่ 22 มกราคม ผู้อำนวยการใหญ่ WHO ได้ขอให้คณะกรรมการฉุกเฉินหารือในวันที่ 23 มกราคม เพื่อศึกษาข้อมูลที่ได้รับจากทางการจีนเกี่ยวกับวิวัฒนาการทางระบาดวิทยาล่าสุดและมาตรการจัดการความเสี่ยง

ทางการจีนเสนอข้อมูลทางระบาดวิทยาใหม่ที่เปิดเผยจำนวนผู้ป่วยที่ต้องสงสัยเพิ่มขึ้นในมณฑลที่ได้รับผลกระทบและสัดส่วนผู้เสียชีวิตในขณะนั้นอยู่ที่ 4% (เสียชีวิต 17 จากผู้ติดเชื้อ 557) จีนรายงานพบผู้ติดเชื้อระดับที่สี่ในหวู่ฮั่นและผู้ป่วยรุ่นที่สองนอกหวู่ฮั่นและนอกมณฑลหูเป่ย

ในเวลานั้นจีนยืนยันกับองค์การอนามัยโลกว่ามีมาตรการกักกันที่แข็งแกร่ง เช่น มีการปิดระบบขนส่งมวลชนในเมืองหวู่ฮั่นและเมืองใกล้เคียงอื่นๆ อย่างไรก็ตาม สมาชิกของคณะกรรมการฉุกเฉินได้รับแจ้งเกี่ยวกับการระบาดในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และประเทศไทย รวมทั้งมีการระบุกรณีใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในสิงคโปร์

หลังจากพิจารณาแล้ว สมาชิกหลายคนของคณะกรรมการฉุกเฉินคิดว่ามันยังเร็วเกินไปที่จะประกาศภาวะ PHEIC  แต่ได้ให้ข้อแนะนำเบื้องต้นพร้อมกับยืนยันว่าจะให้การสนับสนุนด้านเทคนิคและการปฏิบัติการที่จำเป็นต่อไป เพื่อตอบสนองต่อการระบาดของโรค และในจีนแชร์ข้อมูลเต็มรูปแบบต่อทุกกรณีกับ WHO รวมถึงลำดับจีโนมและรายละเอียดของการติดเชื้อหรือกลุ่มคนทำงานด้านการดูแลสุขภาพ รวมถึงยกระดับการเฝ้าระวังและการค้นหาผู้ป่วยในจีนโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน (1)

ในวันเดียวกับที่องค์การอนามัยโลกให้จีนเฝ้าระวังการแพร่ระบาดช่วงเทศการตรุษจีน ซึ่งจะมีผู้คนเดินทางหลายร้อยล้านคน เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 นั้น รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนได้สั่งปิดเมืองหวู่ฮั่นและเมืองอื่นๆ ในมณฑลหูเป่ยเพื่อพยายามกักบริเวณศูนย์กลางของการระบาดของ COVID-19 (2)

Gauden Galea ตัวแทนองค์การอนามัยโลกในกรุงปักกิ่ง บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า การกักกันผู้คนกว่า 11 ล้านคนนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์สาธารณสุข ดังนั้นจึงไม่ใช่คำแนะนำที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ แต่การปิดหวู่ฮั่นเป็นสิ่งบ่งชี้ที่สำคัญมากถึงความมุ่งมั่นที่จะยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคในสถานที่ที่มีการกระจุกตัวของประชากรมากที่สุด (3)

วันที่ 30 มกราคม มีคำแถลงเกี่ยวกับการประชุมครั้งที่สองของคณะกรรมการฉุกเฉินเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยทางองค์การอนามัยโลกได้ชื่นชมการทำงานของจีนว่า ยินดีต่อความเป็นผู้นำและความมุ่งมั่นทางการเมืองของรัฐบาลจีน ความมุ่งมั่นต่อความโปร่งใสและความพยายามในการตรวจสอบและควบคุมการระบาดของไวรัสอย่างรวดเร็วและแชร์ลำดับทางพันธุกรรมเพื่อให้ประเทศอื่นสามารถวินิจฉัยได้อย่างรวดเร็วและสามารถป้องกันตัวเอง ซึ่งส่งผลให้มีการพัฒนาเครื่องมือวินิจฉัยอย่างรวดเร็ว (4)

หลังจากการระบาดที่จีน ประเทศต่างๆ เริ่มใช้มาตรการป้องกันที่เข้มงวดขึ้น ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างมาตรการต่างๆ ที่ประเทศอื่นใช้ควบคุมการระบาด

มาตรการคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศ

วันที่ 3 มกราคม ประเทศไทยเริ่มคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาจากหวู่ฮั่นที่สนามบิน 4 แห่ง สิงคโปร์ได้เริ่มคัดกรองผู้โดยสารที่สนามบินชางงี และกระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งให้แพทย์ระวังกรณีที่สงสัยว่าเป็นคนที่เดินทางกลับจากพื้นที่ระบาด (5)

การออกคำเตือน

วันที่ 6 มกราคม ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (USCDC) ออกคำเตือนเดินทางระดับ 1 (“ข้อควรระวังตามปกติ”) พร้อมคำแนะนำเกี่ยวกับการล้างมือและให้คำแนะนำในการหลีกเลี่ยงสัตว์, ตลาดค้าสัตว์ และการเดินทางไปหวู่ฮั่น (6)

การปิดประเทศ

วันที่ 23 มกราคม สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) ปิดพรมแดนและห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ เที่ยวบินเข้าและออกของเกาหลีเหนือถูกระงับ (7)

การระงับการเดินทาง

25 มกราคม ฮ่องกงประกาศภาวะฉุกเฉิน เที่ยวบินและการเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงระหว่างฮ่องกงและหวู่ฮั่นซึ่งเป็นศูนย์กลางของการระบาดจะถูกระงับ  สั่งปิดโรงเรียนจนถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ (8) ต่อมา 26 มกราคม ฮ่องกงประกาศว่าจะห้ามทุกคนที่เคยไปจังมณฑลหูเป่ยในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ไม่ให้เข้าเมืองเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม (9)

ระงับวีซ่าชาวจีน

วันที่ 29 มกราคม รัฐบาลคาซัคสถานระงับการออกวีซ่าให้กับชาวจีน นอกจากนี้การขนส่งทั้งหมดทั้งไปและกลับยังประเทศจีนก็ถูกระงับ โดยรถไฟหยุดในวันที่ 1 กุมภาพันธ์และเครื่องบินหยุดตั้งแต่ 3 กุมภาพันธ์ (10) วันที่ 29 มกราคม กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของเวียดนามหยุดการออกวีซ่าชั่วคราวให้กับชาวจีนในพื้นที่ระบาด (11)

รัฐบาลแจกอุปกรณ์ป้องกัน

วันที่ 30 มกราคม สิงคโปร์ประกาศว่าทุกครัวเรือนจะได้รับหน้ากาก 4 ชิ้น ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ รวมแล้วมีจำนวน 5.2 ล้านชิ้น (12)

องค์การอนามัยโลกประกาศภาวะฉุกเฉิน

เทดรอส อาดานอม เกเบรเยซุส

วันที่ 30 มกราคม ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกประกาศว่าการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่เป็น “ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ” (PHEIC) เป็นการตัดสินใจที่สวนทางกับตัดสินใจสองครั้งก่อนหน้านี้หลังจากการประชุมคณะกรรมการฉุกเฉินในสัปดาห์ที่แล้ว

ในตอนนี้คณะกรรมการฯ เชื่อว่ายังคงมีความเป็นไปได้ที่จะขัดขวางการแพร่กระจายของไวรัส หากประเทศต่างๆ มีมาตรการที่แข็งแกร่งในการตรวจหาโรคแต่เนิ่นๆ โดยแยกผู้ติดเชื้อและรักษาผู้ติดเชื้อ รวมถึงติดตามการติดต่อและส่งเสริมมาตรการทางสังคมที่สอดคล้องกับความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯ ยังไม่แนะนำให้กำหนดข้อจำกัดการเดินทางหรือการค้าใดๆ (13)

เลิกเที่ยวบินไปจีน

วันที่ 30 มกราคม นายกรัฐมนตรีอิตาลี จูเซปเป้ คอนเต กล่าวในงานแถลงข่าวว่า อิตาลีได้ปิดการจราจรทางอากาศทั้งหมดไปและกลับจากจีน หลังจากพบผู้ป่วย 2 รายแรกในอิตาลี (14) ต่อมาวันที่ 31 มกราคม อิตาลีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นประเทศในสหภาพยุโรปประเทศแรกที่ทำเช่นนั้น

ออกคำเตือนห้ามเดินทางไปจีน

วันที่ 30 มกราคม กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาได้ออกคำแนะนำการท่องเที่ยวฉบับปรับปรุง ยกระดับขึ้นมาเป็น “ระดับ 4: อย่าเดินทางไปยังประเทศจีน” เว็บไซต์ของกระทรวงต่างประเทศระบุว่า “ผู้ที่อยู่ในประเทศจีนควรพิจารณาเดินทางออก” และเตือนว่า “นักท่องเที่ยวควรเตรียมพร้อมสำหรับข้อจำกัดการเดินทางที่จะมีผลบังคับใช้โดยมีการแจ้งล่วงหน้าเล็กน้อยหรือไม่มีเลย” (15)

ประกาศภาวะฉุกฉานด้านสุขภาพ

รัฐบาลสหรัฐประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข และปิดพรมแดนไม่รับชาวต่างชาติทุกคนซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อการแพร่เชื้อไวรัสจากการเข้ามาในประเทศและจะกักกันพลเมืองสหรัฐที่เดินทางกลับจากมณฑลหูเป่ยในจีนเป็นเวลานานถึง 14 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ เวลา 17.00 น (16)

ห้ามส่งออกหน้ากากอนามัย

เนื่องจากความต้องการหน้ากากาอนามัยมีสูงมากจนขลาดแคลน ทำให้บางประเทศใช้นโยบายห้ามส่งออกหน้ากากอนามัย กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการครอบครัวของอินเดีย มีคำสั่งหยุดการส่งออกหน้ากาก N-95 และวัสดุที่ฆ่าเชื้อโรคอื่นๆ มีผลบังคับใช้ทันที ข่าวนี้รายงานเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ (17)

กักกันเรือเดินสมุทร

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นกักกันเรือสำราญ Diamond Princess ที่บรรทุกผู้โดยสารประมาณ 3,500 คนเอาไว้ท่าเรือโยโกฮาม่า เนื่องจากอดีตผู้โดยสารบนเรือติดเชื้อไวรัส (18) ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศว่าจะอพยพชาวอเมริกันบนเรือ Diamond Princess กลับประเทศ (19) ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของไทยไม่อนุญาตให้เรือสำราญ  MS Westerdam ขึ้นฝั่งในประเทศ แต่ในเวาต่อมาเรือเดินทางไปขึ้นฝั่งที่กัมพูชาและตรวจไม่พบผู้ติดเชื้อ แต่วันในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ผู้โดยสารเรือ MS Westerdam  ที่เดินทางจากกัมพูชาไปยังมาเลเซีย ถูกตรวจพบการติดเชื้อบนเรือ เจ้าหน้าที่ของมาเลเซียจึงห้ามผู้โดยสารที่เดินทางบนเรือสำราญดังกล่าวเข้าประเทศ (20)

เกาหลีใต้ปิดเมือง

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ เกาหลีใต้กำหนดเขต Daegu และ Cheongdo เป็น “เขตดูแลพิเศษ” หลังจากมีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้อยู่อาศัยใน Daegu ได้รับคำแนะนำให้อยู่ข้างในบ้านเรือน รัฐบาลยังได้ประกาศแผนการส่งเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และหน่วยงานชั่วคราวเพื่อหยุดยั้งไวรัส ในกรุงโซลจะไม่อนุญาตให้มีการประท้วงขนาดใหญ่และการเดินขบวน กองทัพเกาหลีใต้ยังสั่งห้ามไม่ให้ทหารทุกคนลาออกจากค่ายทหาร ส่วนกองทัพสหรัฐมีคำสั่งควบคุมการเดินทาง (21)

ยกเลิกงานเทศกาลประจำปี 

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ Carnival of Venice ซึ่งเป็นงานประเพณีสำคัญของเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ถูกยกเลิก คำสั่งนี้ประกาศโดย Luca Zaia ผู้ว่าการแคว้นเวเนโต ซึ่งเป็นพื้นที่การระบาดใหญ่ร่วมกับแคว้นลอมบาร์เดีย ทำให้อิตาลีเป็นพื้นที่ระบาดใหญ่แห่งแรกในยุโรป (22)

งดการแข่งขันกีฬา

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นเรียกร้องให้มีการหยุดกิจกรรมกีฬาและวัฒนธรรมเป็นเวลาสองสัปดาห์  หลังจากญี่ปุ่นยืนยันการเสียชีวิตในประเทศรายที่สอง ท่ามกลางความกังวลว่าโอลิมปิกโตเกียวปี 2020 จะถูกยกเลิก (23)

ปิดโรงเรียน

นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นชินโซ อาเบะ ขอให้โรงเรียนประถมศึกษา มัธยมต้น มัธยมปลาย และโรงเรียนสำหรับเด็กพิเศษทุกแห่งปิดการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคมจนถึงวัดหยุดปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิเพื่อหยุดยั้งไวรัส (24)

การยกเลิกงานมหกรรมทางธุรกิจ

วันที่ 29 กุมภาพันธ์ งานมหกรรมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ITB Berlin 2020 ยกเลิกการจัดงานเป็นครั้งแรก ตามคำสั่งของกระทรวงสาธารณสุขของสหพันธรัฐและกระทรวงเศรษฐกิจของรัฐบาลกลางเยอรมนี โดยงานนี้มีผู้แสดงสินค้าและบริการมากกว่า 10,000 คนจาก 180 ประเทศ (25)

ไทยประกาศปิดประเทศและปิดเมือง

วันที่ 22 มีนาคมถึงวันที่ 12 เมษายน 2563 กรุงเทพมหานครและ 5 จังหวัดปริมณฑล ปิดห้างสรรพสินค้าและสถานที่ต่างๆ ที่เป็นอแหล่งแร่ระบาดไวรัส และต่อมารัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน กำหนดปิดการเดินทางเข้าประเทศของต่างชาติและปิดห้างสรรพสินค้ายกเว้นซุปเปอร์มาเก็ต ร้านขายยา มีผลตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 (26)

อัปเดตสหรัฐมียอดผู้ป่วยอันดับ 1 ของโลก

ข้อมูลล่าสุด เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 ขณะนี้ สหรัฐ มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 142,178 ราย ตามมาด้วยอิตาลี 97,689 ราย จีน 81,470 ราย สเปน 80,110 ราย เยอรมนี 62,435 ราย ฝรั่งเศส 40,174 ราย และอิหร่าน 38,309 ราย

นอกจากนี้ อิตาลี ยังมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยมีจำนวน 10,779 ราย ตามมาด้วย สเปน 6,803 ราย จีน 3,304 ราย อิหร่าน 2,640 ราย ฝรั่งเศส 2,606 ราย และสหรัฐ 2,484 ราย (27)

อ้างอิง

  1. https://www.who.int/news-room/detail/23-01-2020-statement-on-the-meeting-of-the-international-health-regulations-(2005)-emergency-committee-regarding-the-outbreak-of-novel-coronavirus-(2019-ncov)
  2. http://www.xinhuanet.com/english/2020-01/23/c_138729430.htm
  3. https://www.reuters.com/article/us-china-health-who-idUSKBN1ZM1G9
  4. https://www.who.int/news-room/detail/30-01-2020-statement-on-the-second-meeting-of-the-international-health-regulations-(2005)-emergency-committee-regarding-the-outbreak-of-novel-coronavirus-(2019-ncov)
  5. https://www.straitstimes.com/singapore/ministry-of-health-issues-advisory-on-viral-pneumonia-outbreak-in-chinas-wuhan
  6. https://wwwnc.cdc.gov/travel/notices/warning/novel-coronavirus-china
  7. https://www.dailynk.com/english/north-korea-quarantines-suspected-coronavirus-cases-sinuiju/
  8. https://www.reuters.com/article/us-china-health-hongkong/hong-kong-leader-declares-virus-emergency-halts-official-visits-to-mainland-china-idUSKBN1ZO0B7
  9. https://www.scmp.com/news/hong-kong/health-environment/article/3047689/china-coronavirus-hong-kong-has-its-sixth-patient
  10. https://www.reuters.com/article/us-china-health-kazakhstan/kazakhstan-suspends-transport-links-with-china-over-virus-idUSKBN1ZS178
  11. https://thanhnien.vn/thoi-su/vn-tam-thoi-khong-cap-thi-thuc-du-lich-cho-nguoi-den-tu-vung-dich-viem-phoi-vu-han-1176178.html
  12. https://www.straitstimes.com/singapore/wuhan-virus-every-household-in-singapore-to-get-4-masks-collection-starts-on-feb-1

13 https://www.who.int/news-room/detail/30-01-2020-statement-on-the-second-meeting-of-the-international-health-regulations-(2005)-emergency-committee-regarding-the-outbreak-of-novel-coronavirus-(2019-ncov)

  1. https://news.trust.org/item/20200130210003-wm57y/
  2. https://travel.state.gov/content/travel/en/traveladvisories/traveladvisories/china-travel-advisory.html
  3. https://www.cnbc.com/2020/01/31/white-house-to-hold-briefing-on-coronavirus-friday-afternoon.html
  4. https://www.cityspidey.com/news/11202/with-corona-in-the-backdrop-health-ministry-bans-export-of-n-95-mask
  5. https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/en/news/20200204_03/
  6. https://www.nytimes.com/2020/02/15/world/asia/japan-cruise-ship-coronavirus.html
  7. https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-02-16/malaysia-bars-westerdam-passengers-cancels-special-u-s-flights
  8. https://www.channelnewsasia.com/news/asia/covid19-south-korea-52-new-coronavirus-cases-total-156-12456158
  9. https://apnews.com/bda63e372d4d0e5f393744e2cff6fdf1/
  10. https://www.channelnewsasia.com/news/asia/japan-reports-second-covid-19-death-pm-urges-two-week-curbs-on-12471074
  11. https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-02-27/abe-calls-for-all-japan-schools-to-close-to-combat-coronavirus

25.https://www.itbberlin.de/en/Press/PressReleases/News_73794.html?referrer=/en/Press/PressReleases/#news-en-73794

26. https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/872591, https://www.bbc.com/thai/thailand-51986158

27.https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/873392

Related posts

การเกษตรรักษ์โลก ‘แหนเป็ด’ ซูเปอร์ฟู้ดแห่งอนาคตโปรตีนสูง 45%

เป้าหมาย NDC ความมุ่งมั่นของไทย ก้าวย่างสู่ Net Zero และโลกยั่งยืน

ประโยชน์การเข้าร่วมเวที COP29 โอกาสเข้าถึงเงินช่วยเหลือของไทย