นักวิทยาศาสตร์ยืนยันแล้วว่าโรคระบาดครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากตัดต่อพันธุกรรมและไม่ใช่อาวุธชีวภาพ แต่มันก็ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติแบบ 100% แต่ธรรมชาติถูกมนุษย์คุกคามจนปลดปล่อยพลังแห่งการทำลายล้างออกมาต่างหาก
มันอาจจะฟังดูเหมือนหนังไซไฟ แต่มีบางคนคิดแบบนี้จริงๆ
Inger Andersen หัวหน้าของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) เชื่อว่าธรรมชาติกำลังส่งสารถึงเราพร้อมกับการระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัสและวิกฤตสภาพอากาศที่กำลังดำเนินอยู่
Andersen บอกว่า มนุษยชาติกำลังกดดันธรรมชาติมากเกินไป และ Covid-19 เป็นคำเตือนที่ “ชัดเจนเอามากๆ” จากธรรมชาติ เนื่องจากมีโรคที่เกิดขึ้นในสัตว์ป่าอยู่จำนวนมากและมันรอที่จะถูกปลดปล่อยออกมา
ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่า Covid-19 มาจากตัวอะไรแน่ แต่เรายืนยันได้ว่าลิ่นหรือตัวนิ่ม (angolins) มีสายพันธุ์ของโคโรนาไวรัสที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดในตอนนี้ แต่ตัวการจริงๆ ก็จะเป็นค้างคาว
เมื่อตอนที่โรคซาร์ส (Sars) ระบาดก็มีต้นเหตุมาจากไวรัสจากค้างคาว มายังชะมด
เมื่อตอนที่โรคเมอร์ส (MERS-CoV) ระบาดไวรัสกลายพันธุ์จากค้างคาวมายังอูฐ
การบุกรุกผืนป่าทำให้มนุษย์เข้าใกล้ถิ่นที่อยู่ของเชื้อโรคในค้างคาวป่ามากขึ้นเรื่อยๆ มนุษย์ยังซื้อสัตว์ป่ามากินง่ายขึ้นเรื่อยๆ ชะมดและตัวนิ่มที่ควรอยู่ในป่าก็ถูกนำเข้ามาในเมืองหรือไม่ก็ถูกล่าได้ง่ายขึ้น เพราะผืนป่าถูกทำลาย
หลังจากนั้นโรคประหลาดที่มนุษย์ไม่เคยพบมาก่อนก็ถูกธรรมชาติปล่อยออกมา
Andersen บอกว่า อารยธรรมโลกในวันนี้กำลังเล่นกับไฟ เพราะพฤติกรรมของมนุษย์เกือบทุกครั้งที่ทำให้เกิดโรคระบาดร้ายแรง
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะ 75% ของโรคติดต่อเกิดใหม่ทั้งหมดมาจากสัตว์ป่า!
มันไม่ใช่แค่ซาร์สหรือเมอร์ส แต่ยังมีโรคอีโบลา ไข้หวัดนก ไข้ระแหงลีย์ ไวรัสเวสต์ไนล์ และไวรัสซิก้า พวกนี้เกิดจากสัตว์ป่าแล้วข้ามมาติดในมนุษย์
ปัญหานี้เกี่ยวข้องกับปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาโลกร้อน ลัทธิบริโภคนิยม ลัทธิทุนนิยม ผู้เชี่ยวชาญจึงกล่าวว่า ถ้าจะป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดอีก จะต้องแก้ทั้งปัญหาโลกร้อนและการทำลายล้างธรรมชาติ ลดฟาร์มอุตสาหกรรมเกษตร การทำเหมือง และการทำลายถิ่นอาศัยของสัตว์ป่า
ไฟป่าที่เกิดขึ้นในภาคเหนือของประเทศไทยตอนนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับ Covid-19 โดยตรง แต่มันเป็นปัญหาเดียวกับที่ทำให้โรคระบาดถูกปลดปล่อยตัวออกมามากขึ้น คือการที่มนุษย์ทำลายถิ่นอาศัยของสัตว์ป่า การเผาป่ายังอาจทำลายแหล่งสมุนไพรที่จะใช้รักษาโรคในอนาคตด้วย
การรุกพื้นที่ป่าเพื่อสร้างโรงแรมบนภูเขาในภาคเหนือของไทย การสร้างเขื่อนกลางหุบเขา การทำเหมืองแร่มีค่ากลางป่า การระเบิดภูเขาแล้วนำหินมาขายเพื่อสร้างเมือง
บางเรื่องเราอาจจะคาดไม่ถึงว่ามันเลวร้ายขนาดไหน เช่น ภูเขาหินปูนหลายแห่งมีถ้ำเล็กถ้ำน้อยที่เป็นถิ่นอาศัยของค้างคาว แต่มันถูกสัมปทานระเบิดหิน ป่าดิบหลายแห่งถูกถางเพื่อทำเป็นสวนยางหรือปาล์มทำให้ตัวนิ่มถูกล่าไปขายที่ประเทศจีนได้ง่ายๆ
พฤติกรรมแบบนี้แหละที่ Andersen ถึงได้บอกว่า “มนุษย์กำลังเล่นกับไฟ”