‘เศรษฐกิจ BCG’ จุดสมดุล เศรษฐกิจ-สิ่งแวดล้อม ไปต่อหรือพอแค่นี้

“เศรษฐกิจ BCG คืออะไร” เปิดโมเดล “เศรษฐกิจ BCG” กุญแจสำคัญ รับมือ Climate Change จุดสมดุลระหว่าง เศรษฐกิจกับสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนไปถึงไหน

“เศรษฐกิจ BCG” โมเดลธุรกิจที่ลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาโลกร้อน (Global Warming) ที่กำลังเป็นตัวบั่นทอนทรัพยากรโลก และผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ถูกขับเคลื่อนในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศเป็นวาระแห่งชาติมาตั้งแต่ปี 2565 ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วน GDP จากโมเดลธุรกิจนี้ภายใน 5 ปี เมื่อโลกเปลี่ยน เราต้องปรับ แต่ขยับไปถึงไหนแล้ว

เศรษฐกิจ BCG คืออะไร

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกับ “เศรษฐกิจ BGG” หรือ BCG โมเดล เมกะเทรนด์สำคัญของโลก ซึ่งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม ที่จะพัฒนาเศรษฐกิจ 3 มิติไปพร้อมกัน ที่ไม่ว่าภาครัฐและเอกชนในโลกนี้ ต่างให้ความสำคัญ เพราะมีเป้าหมายเดียวกัน คือ การปกป้องสิ่งแวดล้อม การลดปัญหาโลกร้อน  ถือเป็นยุทธศาสตร์การพลิกฟื้นเศรษฐกิจ โดยการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน และถือเป็นการลงทุนที่ก่อให้เกิดความคุ้มค่าในระยะยาว

โมเดลเศรษฐกิจ bcg มีอะไรบ้าง

  • B – Bio-economy  เศรษฐกิจชีวภาพ เป็นเศรษฐกิจที่เน้นการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพอย่างคุ้มค่า ควบคู่กับการรักษาสมดุลสิ่งแวดล้อม โดยใช้เทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าและบริการให้มีนวัตกรรมและมีมูลค่าสูง
  • C – Circular Economy เศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นเศรษฐกิจที่เน้นการใช้ทรัพยากรให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด ใน 3 เรื่องหลัก คือ การใช้งานผลิตภัณฑ์เต็มวงจร (Reuse, Refurbish, Sharing) การแปรสภาพเพื่อกลับมาใช้ใหม่ (Recycle, Upcycle) และการออกแบบผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตเพื่อให้เกิดของเสียน้อยที่สุด (Zero-Waste)
  • G – Green Economy เศรษฐกิจสีเขียว เป็นเศรษฐกิจมุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อโลกอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม

โดย “เศรษฐกิจ BCG” จะมุ่งเน้นการพัฒนาจากทรัพยากรทางธรรมชาติที่มีอยู่เดิม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งด้านกระบวนการผลิต และในการนำไปใช้ ซึ่งจะเน้นเป้าหมายรูปแบบการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ ที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างก้าวกระโดด และช่วยต่อยอดอุตสาหกรรมเดิม เพิ่มรายได้ของประชากรได้มากขึ้น

ตัวอย่างธุรกิจ BCG มีอะไรบ้าง

เริ่มจาก B – Bio Economy เศรษฐกิจชีวภาพ ตัวอย่างโอกาสของธุรกิจ

  • เนื้อสัตว์ในอนาคต เนื้อสัตว์ที่ผลิตจากพืชโดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อให้รสชาติใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์จริง ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่รักสุขภาพหรือรับประทานมังสวิรัติ
  • พลาสติกชีวภาพ เช่น ตะเกียบพลาสติกที่ผลิตจากข้าวโพด มันลำปะหลัง
  • ชีวเภสัชภัณฑ์ การผลิตยาด้วยเทคโนโลยีชีวภาพและการตัดต่อพันธุกรรมเช่น การสร้างอินซูลินจากจุลินทรีย์เพื่อรักษาโรคเบาหวาน ยาชีววัตถุสำหรับรักษาโรคมะเร็ง
  • พลังงานชีวภาพ เช่น เชื้อเพลิงที่ผลิตจากผลผลิตเหลือทิ้งทางการเกษตร เช่น แกลบ ชานอ้อย ซังข้าวโพด

ซึ่งก็มีบริษัทที่เติบโตจากแนวคิด BCG โมเดล โดยนำพืช อย่าง อ้อย ข้าวโพด มันสำปะหลัง มาผลิตเป็นพลาสติกชีวภาพ ถุงบรรจุอาหารย่อยสลายได้ 100% ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ช่วยแก้ปัญหาขยะ และมลพิษสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี

Circular Economy เศรษฐกิจหมุนเวียน ตัวอย่างโอกาสธุรกิจ

  • การผลิตโดยใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เช่น การนำขยะพลาสติกมารีไซเคิลเป็นเครื่องแต่งกายรองเท้ากีฬา, หรือนำยางล้อรถยนต์ที่หมดอายุมาเป็นผลิตพื้นรองเท้า การผลิตสินค้า/บรรจุภัณฑ์จากขยะหรือวัสดุรีไซเคิล
  • ผู้ให้บริการเช่า หรือ Platform ตลาดมือสองออนไลน์ เช่น ธุรกิจให้เช่าเสื้อผ้า กระเป๋าแบรนด์เนม และการขายสินค้ามือสองผ่าน Platform ออนไลน์
  • การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อให้ใช้งานได้นานขึ้น เช่น แปรงสีฟัน ที่ผู้ใช้สามารถถอดหัวแปรงออกจากด้ามเพื่อเปลี่ยนได้ โทรศัพท์มือถือที่อัพเกรด Software เพื่อให้สามารถใช้งาน ได้นานขึ้น

Green Economy เศรษฐกิจสีเขียว ตัวอย่างโอกาสธุรกิจ 

  • การใช้พลังงานสะอาดผลิตไฟฟ้าแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าพลังงานลม
  • การผลิตสินค้ารักษ์โลก เช่น เครื่องถ่ายเอกสารที่สามารถลบหมึกได้ด้วยเครื่องล้างข้อมูล เพื่อให้สามารถนำกระดาษแผ่นเดิมกลับมาใช้ใหม่ได้ถึง 5 ครั้ง
  • การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยมีการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2583 รถยนต์ไฟฟ้าจะมีสัดส่วนสูงขึ้นถึง 55% ของตลาดรถยนต์โลก
  • การบริหารจัดการน้ำอัจฉริยะ เช่น การใช้ระบบน้ำแบบหมุนเวียนซึ่งช่วยลดการใช้ทรัพยากรน้ำสูงสุดถึง 50%
  • ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศ มุ่งเน้นกิจกรรมท่องเที่ยวที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ประโยชน์ของ เศรษฐกิจ BCG

ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สรุปไว้ว่า “เศรษฐกิจ BCG”  Economy Model จะช่วยก่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในหลายมิติ และหลายด้าน

  • ด้านเศรษฐกิจ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ถ้านำแนวคิดเรื่อง BCG มาใช้ จะช่วยลดภาวะการว่างงาน และทำให้เกิดความก้าวหน้าด้านเกษตรอาหาร
  • ด้านความมั่นคงทางด้านอาหาร ประเทศไทยมีความมั่นคงทางอาหารในระดับที่ดี ในแง่ของการผลิต ไทยผลิตอาหารได้เป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ผลิตอาหารประเภทส่วนเกิน คือ กลุ่มอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต เช่น แป้ง น้ำตาล ในจำนวนมาก ขณะที่อาหารประเภทโปรตีน กลับผลิตได้ไม่เพียงพอ จึงต้องพยายามปรับให้การผลิตอาหารประเภทส่วนเกินมาเป็นอาหารประเภทโปรตีน เพื่อสร้างโอกาสให้กับประเทศ ด้วยการนำแนวทาง BCG เข้าไปช่วย และทำให้กลุ่มคนทุกระดับ ได้รับสารอาหาร และสามารถเข้าถึงอาหารได้ เกิดความมั่นคงด้านอาหาร
  • ด้านพลังงาน ปัจจุบันประเทศไทยพึ่งพาแก๊สธรรมชาติมาก ใช้ในการผลิตไฟฟ้า 60% และมีแนวโน้มว่าจะต้องนำเข้าจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นมากในอนาคต BCG จะเข้ามาช่วยให้ไทยเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน
  • ด้านสุขภาพ ในแต่ละปีประเทศไทยนำเข้าผลิตภัณฑ์ทางด้านสุขภาพจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มยา และเวชภัณฑ์ ในปัจจุบันทางด้านการวิจัยและนวัตกรรมกำลังศึกษาเรื่องการผลิตยา เช่น ยารักษาโรคสะเก็ดเงิน ยาเพิ่มเม็ดเลือดแดง ยารักษาโรคมะเร็ง เพื่อลดการนำเข้ายาในอนาคต
  • ด้านความยั่งยืน เรื่องของทรัพยากรธรรมชาติ คาดหวังว่าเมื่อทำ BCG ได้แล้ว จะสามารถลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติลงไป อีกทั้งยังสามารถลดมลพิษ เช่น PM 2.5 ขยะ น้ำเสีย การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ดูแลสัตว์สูญพันธุ์
  • ด้านการท่องเที่ยว ในรูปแบบเดิมอาจทำให้ธรรมชาติสึกหรอ แต่เมื่อมีการวางแผนการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการดูแลธรรมชาติ จะทำให้รูปแบบการท่องเที่ยวเกิดความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

จิณณฉัตร อริยสวโรจน์ ผู้ประกอบการรับซื้อขยะ เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนให้ “เศรษฐกิจ BCG” เกิดขึ้น บอกกับ igreen โดยเชื่อว่า หากไทยสามารถเดินหน้าเศรษฐกิจ BCG ในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้ไทยสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลกและสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจอย่างสมดุลทั่วถึงและยั่งยืน

เศรษฐกิจ BCG เดินหน้าไปถึงไหน

World Bank เผยรายงานใหม่ Towards a Green and Resilient Thailand (มุ่งมั่นสู่ประเทศไทยสีเขียวที่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง) ด้วยภัยคุกคามด้านสภาพภูมิอากาศที่เพิ่มขึ้น รวมถึงระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น สภาพอากาศที่รุนแรง และการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ โมเดลเศรษฐกิจ BCG อาจจำเป็นต้องปรับแนวทางเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น เพื่อให้สามารถเดินหน้าต่อไป

ธนาคารโลก จึงได้นำเสนอโมเดล “BCG+” ซึ่งเป็นการพัฒนาเพิ่มเติมจากโมเดลเศรษฐกิจ BCG ของประเทศไทย มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจสีเขียว ของประเทศไทย และเน้นที่มาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้สร้างโอกาสสำหรับนโยบายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในขณะเดียวกันก็ลดต้นทุนด้านพลังงานอีกด้วย โดยจะสำรวจการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยอย่างยั่งยืน

บทสรุป โมเดล เศรษฐกิจ BCG สะท้อนให้เห็นว่า หากขับเคลื่อนต่อไป จะก่อให้เกิดโอกาสใหม่ทางธุรกิจมากมาย และช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยอย่างยั่งยืนในอนาคต ควบคู่ไปกับการลดปัญหาโลกร้อนอย่างยั่งยืนได้ด้วยเช่นกัน

อ้างอิง : https://tdri.or.th/

https://inno.co.th/

https://www.bangkokbanksme.com/

https://www.bangkokbiznews.com/

Related posts

กรรมการชาติเห็นชอบร่างพรบ.โลกร้อน เดินหน้าสู่เศรษกิจคาร์บอนต่ำ

ฝุ่น PM2.5 พุ่ง ‘หอฟอกอากาศระดับเมือง’ คืนชีวิตให้คนกรุง อย่างไร

5 ปีอุณภูมิโลกส่อทะลุ 1.5 องศา ไทยเร่งรับมือ 6 สาขาเสี่ยงระดับพื้นที่