สมศักดิ์ศรี “ฤดูหนาว” เผย 3 ปัจจัยหลัก ทำประเทศไทย หนาวแรง และหนาวนาน จากปรากฎการณ์ลานีญา, กระแสลมวนขั้วโลก Polar Vortex และมวลอากาศเย็นจากจีน
ในช่วงเดือนมกราคม 2568 หลายพื้นที่ในประเทศไทย และภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก กำลังเผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็นอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศไทย เรียกได้ว่าได้สัมผัสกับอากาศหนาวอย่างจริงจัง ซึ่งไม่เคยปรากฎมาก่อนในรอบหลายสิบปี ซึ่งอากาศหนาว ที่เกิดขึ้น เกิดจากการรวมกันของ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ปรากฏการณ์ลานีญา (La Niña) กระแสลมวนขั้วโลก (Polar Vortex) และมวลอากาศเย็นที่ไหลเข้ามาจากประเทศจีน มาทำความเข้าใจถึงแต่ละปัจจัยที่ส่งผลต่อสภาพอากาศหนาวนี้กันดีกว่า
- ปรากฏการณ์ลานีญา
ปรากฏการณ์ลานีญาเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อมีการลดลงของอุณหภูมิผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก โดยทั่วไปจะส่งผลให้เกิดฝนตกมากขึ้นในบางพื้นที่และทำให้เกิดสภาพอากาศหนาวเย็นในบางภูมิภาค เช่น ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ซึ่งทำให้หลายพื้นที่มีอุณหภูมิลดต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด
- กระแสลมวนขั้วโลก (Polar Vortex)
กระแสลมวนขั้วโลกคือกระแสลมที่พัดหมุนวนอยู่บริเวณขั้วโลกเหนือและใต้ ทำหน้าที่กักเก็บอากาศเย็นให้อยู่ในเขตขั้วโลก เมื่อกระแสลมนี้เกิดการแปรปรวน จะทำให้อากาศเย็นจากขั้วโลกไหลลงมายังเขตละติจูดต่ำ ส่งผลให้เกิดคลื่นความหนาวเย็นจัดในหลายพื้นที่ รวมถึงประเทศไทยด้วย การเคลื่อนที่ของ Polar Vortex จะทำให้เกิดสภาพอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติและอาจนำไปสู่อุณหภูมิที่ต่ำกว่าปกติ
- มวลอากาศเย็นจากจีน
นอกจากสองปัจจัยข้างต้นแล้ว มวลอากาศเย็นจากประเทศจีน ก็มีบทบาทสำคัญในการทำให้อุณหภูมิในไทยลดลง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีการเคลื่อนตัวของมวลอากาศเย็นเข้ามา ส่งผลให้หลายจังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประสบกับความหนาวเย็นอย่างมาก
ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย อธิบายแต่ละปัจจัย ที่ทำให้ประเทศไทยปีนี้ หนาวเย็นมากกว่าปกติ ว่า ปีนี้ประเทศจีนมีอุณหภูมิหนาวเย็นที่สุดในรอบ 30ปี โดยในปลายเดือนธันวาคม 2567 มีอุณหภูมิถึง -53 องศาเซลเซียส ที่เมืองโม่เหอ ในมณฑลต้าซิงอันหลิง ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่เหนือสุดของประเทศจีน รวมทั้งมีหิมะตกหนักเกือบทั้งประเทศ อากาศที่หนาวเย็นสุดขั้วดังกล่าว เป็นผลมาจากปรากฎการณ์ Polar Vortex คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
Polar Vortex คือ
Polar Vortex หรือ กระแสลมวนขั้วโลก เป็นกระแสลมที่มีความรุนแรงหมุนทวนเข็มนาฬิกา วนรอบเหนืออาร์กติกราว 50 กิโลเมตร และมีบทบาทในการเก็บรักษาลมเย็นไว้ที่ภูมิภาคอาร์กติก และไม่ให้ความร้อนจากภายนอกเข้ามา กระแสลมนี้ไม่ใช่พายุแต่อย่างใด เป็นเสมือนอาณาเขตกั้นระหว่างอากาศเย็นเยือกแข็งของอาร์กติก และอากาศอุ่นรอบแลติจูดกลางไม่ให้เล็ดลอดไปหากัน นั่นคือสภาพปกติของ Polar Vortex แต่หากมีอะไรทำให้สมดุลของระบบกระแสลมนี้เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการลดความแข็งแกร่งของกระแสลม เปลี่ยนทิศทางลม หรือทำให้กระแสลมแตกเป็นหลายสาย จะทำให้อุณหภูมิของภูมิภาคอาร์กติกสูงขึ้น ขณะที่พื้นที่อื่นของโลกได้รับอิทธิพลจาก Polar Vortex ที่แปรปรวน ก็คือมีอุณหภูมิต่ำลง
Jennifer Francis นักวิทยาศาสตร์อาวุโสแห่งศูนย์ Woods Hole Research Centre ผู้ศึกษาผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและทางออก วิเคราะห์ในงานวิจัยว่า ทะเลน้ำแข็งของอาร์กติกที่ละลาย อาจเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงสมดุลของ Polar Vortex และมีแนวโน้มจะเกิดบ่อยขึ้น เนื่องจากมหาสมุทรที่ไร้น้ำแข็งนั้นดูดซับความร้อน ไม่ได้สะท้อนกลับ ทำให้เกิดจุดความร้อนขึ้น และนี่คือสาเหตุที่กระแสลมโพลาร์ วอร์เท็กซ์ แยกเป็นหลายสาย
ลักษณะของ Polar Vortex
- การหมุนวน: Polar Vortex มีการเคลื่อนที่ในลักษณะทวนเข็มนาฬิกาในขั้วโลกเหนือและตามเข็มนาฬิกาในขั้วโลกใต้ โดยทำหน้าที่เป็นกำแพงกั้นระหว่างอากาศเย็นจากขั้วโลกและอากาศอุ่นจากละติจูดกลาง
- การเปลี่ยนแปลง: เมื่อ Polar Vortex อ่อนกำลังหรือมีการเปลี่ยนทิศทาง จะทำให้อากาศเย็นจากขั้วโลกไหลลงมายังพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า ส่งผลให้เกิดสภาพอากาศหนาวเย็นอย่างฉับพลันในหลายพื้นที่ เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป และบางส่วนของเอเชีย
ผลกระทบของ Polar Vortex
- อุณหภูมิที่ต่ำลง: เมื่อ Polar Vortex แผ่ขยายออกไป อุณหภูมิในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจะลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความหนาวเย็นจัด
- การเกิดพายุหิมะ: อากาศเย็นที่ไหลลงมาจาก Polar Vortex มักจะนำมาซึ่งพายุหิมะและฝนตกหนัก ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและเศรษฐกิจ
- ผลกระทบต่อระบบนิเวศ: การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่เกิดจาก Polar Vortex สามารถส่งผลกระทบต่อสัตว์และพืชในพื้นที่นั้นๆ ทำให้เกิดความไม่สมดุลในระบบนิเวศ
ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า วันที่ 16 – 18 ม.ค. 2568 ยังมีมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงเสริมลงมาอีกครั้ง ทำให้ทางตอนบนยังมีอากาศเย็นถึงหนาว ฤดูหนาวยังไม่สิ้นสุด ยังสามารถสัมผัสอากาศหนาวเย็นถึงหนาวได้ต่อเนื่องบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ถึงปลายเดือนมกราคม
สรุป
Polar Vortex เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมอุณหภูมิและสภาพอากาศในหลายพื้นที่ทั่วโลก การเข้าใจถึง Polar Vortex จะช่วยให้เราสามารถเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ การติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสภาพอากาศและการศึกษาเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน
อ้างอิง :