นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร (กทม.) จะเสนอให้ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร (สภา กทม.) ในวันที่ 29 ส.ค. ที่จะถึงนี้ เพื่อให้สภาพิจารณาเลื่อนการจัดเก็บค่าเก็บขยะอัตราใหม่ หรือค่าธรรมเนียมเก็บขนสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยจาก 20 บาท เป็น 80 บาท ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ ในวันที่ 1 ต.ค. 2565 ออกไปอีก 1 ปี
ทั้งนี้ เนื่องจากเกรงว่าสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้จะซ้ำเติมประชาชน จึงควรลดต้นทุนในการจัดการขยะ เพราะ กทม.ต้องใช้งบประมาณปีละ 8,000 ล้านบาท แต่จัดเก็บค่าขยะได้เพียง 500 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นจำนวนไม่มากหากเทียบกับค่าจัดการขยะ แต่ต้องรณรงค์ให้มีการแยกขยะ
“ด้วยแนวคิดขยะเป็นทองคำ โดยการเพิ่มแรงจูงใจในการแยกขยะ ซึ่งสามารถนำไปรีไซเคิลและใช้ประโยชน์หรือนำไปขายได้ เชื่อว่าหากมีการคัดแยกขยะจะสามารถลดค่าจัดการขยะที่กทม.ต้องเสียปีละ 8,000 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน
“หากมีการจัดเก็บค่าขยะอัตราใหม่ จะทำให้มีรายได้ในส่วนนี้ จาก 500 ล้าน เป็นประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่ประชาชนต้องจ่ายมากขึ้น ซึ่งประชาชนอาจมีข้อจำกัดมากกว่าภาคเอกชน หากเราประกาศขึ้นค่าขยะอัตราใหม่ภาคเอกชนสามารถขายขยะ หรือรีไซเคิลขยะได้มีประสิทธิภาพมากกว่า อาจทำให้ขยะลดน้อยลงด้วย
“ตัวเลขปัจจุบันค่าขยะมาจากบ้านเรือนประชาชน คอนโด ที่อยู่อาศัยประมาณร้อยละ 60 มองว่าประชาชนที่มีศักยภาพในการรีไซเคิลขยะหรือนำขยะไปขายได้น้อยกว่าภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องคิดให้รอบคอบ” นายชัชชาติกล่าว