‘ชัชชาติ’ รื้อผังเมืองกรุงเทพฯ เน้นทิศทางการพัฒนา มากกว่าปั่นราคาที่ดิน ผุดไอเดียสร้างเมืองใหม่รอบนอก

“ชัชชาติ” เสนอไอเดียนำที่ดินว่างพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ เช่น ลาดกระบัง ร่มเกล้า หรือบางขุนเทียนมาใช้สร้างเมืองใหม่ที่มีบริการสาสาธารณะครบเพื่อลดความแออัด แนะแก้ผังเมืองโดยยึดทิศทางการพัฒนาเมืองมากกว่าการสร้างในสิ่งที่ได้ค่าตอบแทนสูงสุด

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยหลังการประชุมติดตามการดำเนินงานของสำนักการวางผังและพัฒนาเมืองว่า ผังเมืองเป็นเรื่องที่ทุกคนคิดว่าเป็นปัญหาของเมือง เช่น เรื่องน้ำท่วม และการจราจร แต่การปรับผังเมืองไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากมีความซับซ้อนในหลายด้าน

ตัวอย่างเช่น หากเราดูผังเมืองกรุงเทพฯ มีลักษณะเป็นรูปผังสีแดง ส้ม น้ำตาล เหลือง แบ่งการใช้งานตามประเภทสี เช่น สีแดงเป็นพาณิชย์ สีม่วงเป็นอุตสาหกรรม สีส้มเป็นที่อยู่อาศัยหนาแน่น เป็นต้น กลับกลายเป็นว่าถ้าดูผังสีแบบเร็วเหมือนเป็นผังที่กำหนดราคาที่ดิน และกำหนดว่าในแต่ละพื้นที่สร้างสูงสุดได้มากเท่าไหร่

“แต่ไม่ได้บอกว่าควรจะสร้างอะไร กลายเป็นว่าคนที่อยู่ในผังสีนี้ต้องการจะสร้างในสิ่งที่ได้ค่าตอบแทนที่สูงที่สุด ทำให้รูปแบบของเมืองพัฒนาในรูปแบบความต้องการราคาและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้มากที่สุด

“นี่เป็นอันหนึ่งที่อาจจะต้องพยายามต่อไปในอนาคตว่าผังเมืองควรจะกำหนดโจทย์ทิศทางของเมืองมากกว่าจะกำหนดว่าสร้างอะไรได้มากที่สุดในพื้นที่ ดังนั้นอาจจะต้องมีแนวคิดใหม่” นายชัชชาติระบุ

นอกจากนี้ได้หารือถึง “การสร้างเมืองใหม่” ที่อยู่รอบนอก เช่น หาพื้นที่บริเวณลาดกระบัง ร่มเกล้า หรือบางขุนเทียน สร้างเมืองในอุดมคติ ซึ่งอาจนำพื้นที่ของหน่วยราชการที่มีพื้นที่อยู่ เช่น การเคหะแห่งชาติมีที่ว่างหลายร้อยไร่อยู่ในพื้นที่ แล้วทำการพัฒนาเมืองใหม่ที่ไม่ใช่มีแค่ที่อยู่อาศัย มีสำนักงาน มีโรงเรียน มีสวนสาธารณะ การคมนาคม โรงพยาบาล

ทั้งนี้ ให้สำนักการวางผังและพัฒนาเมืองไปหารือร่วมกัน เพื่อออกแบบผังเมืองให้สามารถพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองที่สมบูรณ์ในตัวเอง ก็จะลดการเดินทางเข้ามาในเมืองใหญ่ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่อาจจะเป็นแนวคิดในพื้นที่บางแปลงที่มีขนาดใหญ่ซึ่งจะเริ่มพิจารณาตรงนี้

นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้องการให้มีการเปิดเผยข้อมูลผังเมืองให้เอกชนไปใช้พัฒนาได้หรือนำไปขยายประโยชน์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับหลายหน่วยงานในการขอเปิดเผย เนื่องจากบางส่วนเป็นเรื่องด้านความมั่นคง เรื่องข้อมูลส่วนบุคคล แต่หลักการคือพยายามให้เปิดเผยข้อมูลให้มากที่สุด

“ข้อหนึ่งที่น่าสนใจคือข้อมูลเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปัจจุบันฐานข้อมูลยังไม่ครบ ขาดอีก 1,112,000 แปลง ประมาณกว่า 50% อาจจะเป็นแปลงย่อยที่มีมูลค่าภาษีไม่มาก ส่วนแปลงใหญ่ๆ ที่เคยจ่ายภาษีโรงเรือนน่าจะเข้าระบบทั้งหมดแล้ว

“อาจเหลือแปลงย่อยที่ต้องพัฒนาข้อมูล ซึ่งคงต้องเร่งรัดและหารือร่วมกับสำนักการคลังเพื่อพัฒนาฐานข้อมูลให้เร็วที่สุดเพื่อให้เกิดความยุติธรรมในเรื่องการเก็บภาษีที่ดินและภาษีโรงเรือน” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว

สำหรับตัวผังเมืองใหม่ดำเนินการประชาพิจารณ์มาก่อนหน้านี้แล้ว อาจต้องดำเนินการใหม่ตามกฎหมายที่เปลี่ยนไปเนื่องจากต้องแนบผังแนบท้ายเพิ่มเติม คงต้องเริ่มใหม่ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ทบทวนตัวผังเมืองและปรับปรุงข้อกำหนดต่างๆ ให้ดีขึ้น นี่ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะเร่งดำเนินการ

นอกจากนี้ยังมีข้อบัญญัติเกี่ยวกับผังเมืองที่เริ่มตั้งแต่ปี 2502 ซึ่งมีอยู่ประมาณ 60 ฉบับนี้ คงต้องทบทวน ยกเลิกและปรับให้ทันสมัยขึ้น หัวใจคือกำหนดทิศทางของเมืองให้เกิดการพัฒนาและเกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริงและสูงสุด

Related posts

จัดเดิน-วิ่ง มินิมาราธอน ปีที่ 2 ส่งต่อขาเทียมช่วยผู้พิการยากไร้

‘COP-19’ ดันอาเซียน เป็นภูมิภาคปลอด หมอกควัน

5 ปีอุณภูมิโลกส่อทะลุ 1.5 องศา ไทยเร่งรับมือ 6 สาขาเสี่ยงระดับพื้นที่