รถ ‘ไม่เทรวม’ วิ่งรับขยะ 3 เขต กทม.ปิ๊ง! แยกขยะได้ลดค่าเก็บ-แจกปุ๋ยหมัก

“ชัชชาติ” เปิดตัวโครงการ “ไม่เทรวม” มีวิ่งรุ่นใหม่วิ่งออกรับขยะใน 3 เขตนำร่อง คือ ปทุมวัน พญาไท หนองแขม ผุดไอเดียสร้างแรงจูงใจบ้านไหนแยกขยะจะแจกสติกเกอร์ติดหน้าบ้านว่าร่วมมือพัฒนาเมืองให้ดีขึ้น หรืออาจจะลดอัตราค่าเก็บขยะให้ แจกปุ๋ยหมักให้ทุกเดือน ใครไม่แยกจะต้องเสียเงินมากขึ้น

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงเปิดตัวโครงการ “ไม่เทรวม” ว่า ที่ผ่านมาแม้ประชาชนจำนวนมากแยกขยะแล้ว สุดท้าย กทม.ก็เอามารวมที่รถ ทำให้ประชาชนหมดหวัง ถึงเวลาแล้วที่ต้องเริ่มเป็นกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ต้นน้ำคือประชาชนแยกขยะ กลางน้ำ คือ กทม.จัดเก็บขยะแบบแยกด้วย และปลายน้ำมีการจัดการจัดการขยะที่แยกมาอย่างเป็นระบบ

ที่ผ่านมา กทม.ใช้งบฯ จัดการขยะเป็นหมื่นล้านบาทและเสียเงินไปกับการศึกษากว่า 4,000 ล้านบาทต่อปี วันนี้ต้องเปลี่ยนขยะให้เป็นทรัพย์สินให้ได้

“วันนี้ถือว่าเป็นวันประวัติศาสตร์ ซึ่งจะทำแบบค่อยเป็นค่อยไป คือการทำแบบจำลองก่อน เลือกมา 3 เขต ปทุมวัน พญาไท หนองแขม ซึ่งมีทั้งพื้นที่กลางเมือง ใกล้เมือง และไกลเมือง มีรูปแบบที่แตกต่างกัน ทั้งชุมชน ตลาดสด และออฟฟิศ คอนโดฯ ต้องทำแบบจำลองให้เรียบร้อยก่อนว่ารูปแบบที่ทำได้ผลดีหรือไม่

“อย่างรถขยะเองก็มีปัญหาเหมือนกัน เช่น อุปกรณ์เกะกะ คนแยกขยะไม่สะดวก เชื่อว่าหากแยกขยะเปียกมาแล้ว การแยกขยะจะง่ายขึ้นและเร็วขึ้น เป็น Prototype (ต้นแบบ) ที่ต้องพัฒนาให้สมบูรณ์แบบ และหากมั่นใจใน 3 เขต จะสามารถขยายผลได้เลย หากสำเร็จเร็วก็จะขยายผลต่อไป

“ตรงนี้เป็นเรื่องที่ต้องเอาจริงเอาจัง เพราะขยะจะส่งผลทั้งปัญหาก๊าซเรือนกระจก สภาพแวดล้อม มีผลต่อต้นทุนการจัดเก็บ และความยั่งยืนของเมือง ถ้าแยกขยะแล้วค่าใช้จ่ายลดลง เราก็จะสามารถนำเงินงบประมาณตรงนี้ไปช่วยเหลือเด็ก หรือผู้สูงอายุได้อีก

“ตอนนี้การเปลี่ยนขยะให้เป็นทรัพย์สินทั้งโลกเขาทำกันมาแล้ว ไม่มีเวลาไหนที่จะเหมาะเท่าเวลานี้แล้ว ต้องเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ เริ่มจริงจังทั้งเอกชน รัฐและประชาชน ไม่ได้ทำแค่เอาหน้าในวันนี้ แค่จัดอีเว้นท์ ต้องตามดูความก้าวหน้าทุกอาทิตย์และลงไปแก้ปัญหาอย่างจริงจัง” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว

นายชัชชาติ กล่าวด้วยว่า กำลังคิดทำตะแกรงพับสำหรับล้อมขยะที่ประชาชนนำมาใส่ถุงดำทิ้งข้างถนน ซึ่งเมื่อสุนัขหรือหนูกัดขยะจะลงท่อระบายน้ำ โดยต้องทำแบบมีฝาปิดเหมือนประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งต้องมีอุปกรณ์การเก็บขยะให้พนักงานกวาดขยะได้ทำงานอย่างสะดวก

นอกจากนี้ กำลังคิดเรื่องการสร้างแรงจูงใจในการแยกขยะว่าหากมีการแยกขยะอย่างจริงจัง จะลดอัตราค่าเก็บขยะให้ หรือหากแยกขยะมา อาจจะมีปุ๋ยหมักให้ทุกเดือน หรือหากใครแยกขยะก็จะมีสติกเกอร์ติดหน้าบ้านว่าบ้านหลังนี้ร่วมมือในการพัฒนาเมืองให้ดีขึ้น

“ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวเงินหรือสิ่งของแต่เป็นความภาคภูมิใจว่าเราเป็นร่วมที่ทำให้เมืองดีขึ้น หลายประเทศก็ไม่ได้มี Incentive ให้ แต่ใช้วิธีถ้าคุณไม่แยก คุณต้องเสียเงินมากขึ้น เพราะตามหลักผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย Polluter pays principle หรือ PPP ใครทำมลพิษเยอะก็ต้องจ่ายเงินเยอะ

“อนาคตเมื่อระบบเข้าเต็มที่ อาจมีคนบางกลุ่มที่ไม่ยอมแยก คุณก็ต้องจ่ายค่าเก็บขยะแพงขึ้น สุดท้าย กทม.ก็ต้องไปออกแบบแรงจูงใจให้เหมาะสมเพื่อกระตุ้นให้คนมาร่วมกับเราด้วย”

สำหรับ “ไม่เทรวม” เป็นโครงการรณรงค์แยก “ขยะเศษอาหาร” ออกจาก “ขยะทั่วไป” ซึ่งเป็นนโยบายของผู้ว่าฯ กทม.ในการสร้างต้นแบบการแยกขยะ ต่อยอดให้การแยกขยะระดับเขตสมบูรณ์ครบวงจร เพื่อลดปัญหาขยะปลายทางผ่านการแยกขยะและลดการเกิดขยะต้นทาง

ทั้งนี้ กทม.ยังได้มีการเปิดตัวรถขยะแบบใหม่ที่มีพื้นที่จัดเก็บเศษอาหาร 2 ประเภท ได้แก่ รถอัดท้ายที่ต่อเติมส่วนจัดเก็บขยะเศษอาหาร และรถขยะเปิดข้างเพื่อจัดเก็บขยะเศษอาหาร เพื่อแยกขยะเศษอาหารออกจากขยะประเภทอื่น ช่วยลดปัญหาน้ำชะขยะ กลิ่นขยะระหว่างการเก็บรวบรวมและการกำจัด และใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่า ซึ่งจะออกวิ่งรับขยะที่ไม่เทรวม ในพื้นที่นำร่อง 3 เขต ได้แก่ เขตปทุมวัน เขตพญาไท และ เขตหนองแขม

โครงการ “ไม่เทรวม” แบ่งออกเป็น 3 ระยะเพื่อติดตามประเมินและปรับปรุงแก้ไข โดยระยะที่ 1 (ก.ย.-ต.ค. 65) ช่วงนำร่อง กำหนด 1 เขต 1 เส้นทาง จากนั้นระยะที่ 2 (พ.ย.-ธ.ค. 65) จะขยายเป็นเก็บทุกเส้นทางในระดับแขวง และระยะที่ 3 (ม.ค.- มี.ค. 66) จะขยายทั่วทั้งพื้นที่ 3 เขตนำร่อง 3 ขยายผลเต็มพื้นที่เขต

การเก็บขยะแยกประเภท แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ใช้รถก็บขนมูลฝอยแบบเปิดข้าง ขนาด 1.5 ตัน จำนวนเขตละ 1 คัน จัดเก็บขยะเศษอาหาร คนละเวลากับการเก็บขยะทั่วไปตามปกติ และตัดแปลงรถเก็บขนมูลฝอยแบบอัดขนาด 5 ตัน ติดตั้งถังรองรับขยะเศษอาหารที่ท้ายรถเพิ่มเติม 1 ถัง พร้อมถังสำรองติดตั้งบริเวณคอรถอีกจำนวน 2 ถัง สำหรับจัดเก็บขยะเศษอาหารพร้อมกับการเก็บขยะทั่วไป

โดยขยะเศษอาหารที่จัดเก็บได้สำนักงานเขตรวบรวมส่งโรงงานกำจัดมูลฝอยด้วยเทคโนโลยีเชิงกล-ชีวภาพ อ่อนนุซ (Mechanical and Biological Waste Treatment : MBT) เพื่อหมักเป็นก๊าซผลิตไฟฟ้า และในปี 2566 จะเริ่ม 3 เส้นทางนำร่องและระดับแขวงในพื้นที่อีก 47 เขตที่เหลือต่อไปด้วย

กิจกรรมครั้งนี้มี น.ส.แอนนา เสืองามเอี่ยม มิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส 2022 เข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์ ณ บริเวณศูนย์อาหาร สวนลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. ด้วย

Related posts

เป้าหมาย NDC ความมุ่งมั่นของไทย ก้าวย่างสู่ Net Zero และโลกยั่งยืน

COP29 มุ่งมั่นเป้าหมายทางการเงินใหม่ ชาติพัฒนาแล้วจ่าย 1 แสนล้าน

‘เฉลิมชัย’ พาหมูเด้งบุก COP29 เปิด Thailand Pavilion โชว์แก้โลกเดือด