จับพิรุธสร้างเขื่อนกันตลิ่งพังละเลงงบฯ 6,900 ล้านล้มเหลว

โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ชายฝั่งจังหวัดต่างๆ มีปัญหาต่อเนื่องมาเป็นระยะๆ ล่าสุดพบว่าการก่อสร้างเขื่อนกันตลิ่งที่หาดมหาราช อ.สทิงพระ จ.สงขลา เฟสที่ 1 ความยาว 92 เมตร วงเงิน 18.6 ล้านบาท เริ่มโครงการวันที่ 29 มี.ค. 2559 ถึงวันที่ 22 พ.ค. 2560 พบพิรุธเนื่องจากเป็นการก่อสร้างในจุดที่ไม่มีการกัดเซาะชายฝั่งหรือน้ำทะเลขึ้นไม่ถึง

นอกจากนี้ กรมโยธาธิการและผังเมืองในฐานะเจ้าของโครงการยังใช้วิธีการจ้างบริษัทที่ปรึกษามาศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและให้การรับรองเช่นเดียวกับโครงการก่อสร้างที่หาดม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา ต่างกันก็ตรงที่การก่อสร้างเขื่อนกันตลิ่งที่หาดมหาราชซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาลมหาราช ไม่มีการคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่

กรมโยธาฯ จึงดำเนินโครงการต่อในเฟสที่ 2 ซึ่งเริ่มโครงการวันที่ 2 ก.ย. 2562 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2564 ความยาว 1,102 เมตร มูลค่า 167.2 ล้านบาท เฉลี่ยกิโลเมตรละ 150 ล้านบาท

นายศักดิ์อนันต์ ปลาทอง อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นักวิชาการด้านชายฝั่งทะเล เปิดเผย igreen ว่า การดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลบริเวณหาดมหาราชซึ่งกำลังก่อสร้างในเฟสที่ 2 ไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนเพราะไม่มีการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจังหวัด หรือคณะกรรมการระดับจังหวัดไม่แตกต่างจากโครงการก่อสร้างที่หาดม่วงงาม

การก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นเฟส 2 ที่หาดมหาราช

นอกจากนี้ เมื่อย้อนไปดูหลังจากมีการยกเลิกการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โครงการชายฝั่ง เมื่อปี 2556 กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล ระหว่างปี 2557-2562 รวม 74 โครงการ ระยะทางกว่า 34,875 เมตร ใช้งบประมาณกว่า 6,900 ล้านบาท

ทั้งนี้ พบว่าการสร้างกำแพงกันคลื่นในแต่ละจุดได้สร้างปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งเพิ่มมากขึ้นในบริเวณใกล้เคียงจุดก่อสร้างเดิม เช่น หาดปราณบุรี อ่าวน้อย ชายหาดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ฯลฯ ขณะที่แต่ละโครงการกลับมีการใช้งบประมาณก่อสร้างต่อกิโลเมตรสูงมากและแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะการก่อสร้างเขื่อนกันตลิ่งบริเวณหาดมหาราชเฟสแรกที่น้ำทะเลขึ้นไม่ถึงและไม่มีการกัดเซาะชายฝั่ง

การสร้างเขื่อนกันคลื่นที่ปราณบุรี

กรณีล่าสุดโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งที่หาดม่วงงาม ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา ความยาว 710 เมตร มูลค่ากว่า 80 ล้านบาท ก็ถูกประชาชนในพื้นที่คัดค้านและยื่นฟ้องศาลปกครองสงขลา เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ในขณะที่การลงเสาเข็มโครงการก่อสร้างยังคงดำเนินต่อไป

การก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นที่หาดม่วงงาม

ผู้ฟ้องร่วมลงชื่อฟ้องต่อศาล 541 คน ให้ศาลปกครองชี้ขาดเรื่องอำนาจในการดำเนินโครงการว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย อาทิ โดยขอศาลได้โปรดพิจารณาพิพากษา ดังนี้

1. โครงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่ชายฝั่งหมู่ที่ 7 ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา และพื้นที่ชายฝั่งหมู่ที่ 7, 8, 9 (ระยะที่ 2) ของกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นโครงการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และให้ยกเลิกการดำเนินโครงการดังกล่าวทั้งหมด

2. ขอให้เพิกถอนการอนุญาตที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (กรมเจ้าท่า) อนุญาตให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (กรมโยธาธิการและผังเมือง) เข้าดำเนินการโครงการบนพื้นที่ชายหาด ในบริเวณหมู่ที่ 7, 8 และ 9 ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา

3.ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองร่วมกันหรือแทนกัน รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามโครงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ชายฝั่งหมู่ที่ 7 ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ที่ได้ดำเนินการไปแล้วออกจากบริเวณชายหาดม่วงงามทั้งหมด และให้ปรับสภาพพื้นที่ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม โดยงบประมาณของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง

ขอบคุณภาพ: Beach for life และ อ.ศักดิ์อนันต์ ปลาทอง

Related posts

ประมงพื้นบ้านค้านร่างพ.ร.บ.การประมง เปิดช่องทำลายห่วงโซ่อาหาร

จัดเดิน-วิ่ง มินิมาราธอน ปีที่ 2 ส่งต่อขาเทียมช่วยผู้พิการยากไร้

‘COP-19’ ดันอาเซียน เป็นภูมิภาคปลอด หมอกควัน