สภากทม. รับหลักการ ‘ร่างข้อบัญญัติพื้นที่สีเขียว’

ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 1 ประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2566 มีมติมติรับหลักการวาระ 1 ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องกำหนดลักษณะของอาคารและพื้นที่ว่างนอกอาคารเพื่อการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม หรือ ร่างข้อบัญญัติพื้นที่สีเขียว ด้วยคะแนนเห็นชอบ 31 คน งดออกเสียง 2 คน

สำหรับข้อบัญญัตินี้เสนอโดยนายพุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) เขตยานนาวา พรรคก้าวไกล ที่ต้องการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ กทม. เพิ่มพื้นที่สีเขียวมาดักจับฝุ่นควัน ลดอุณหภูมิในกรุงเทพมหานคร และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน

เนื่องด้วยปัจจุบันกรุงเทพมหานครประสบปัญหาขาดแคลนพื้นที่สีเขียวเมื่อเทียบกับค่ามาตรฐานที่องค์การสหประชาชาติประกาศกำหนดไว้ที่ 9 ตร.ม./คน ในขณะที่กรุงเทพมหานครมีเพียง 7 ตร.ม./คน เท่านั้น แม้จะมีการตั้งงบประมาณก่อสร้างปรับปรุงสวนทุกปี แต่สัดส่วนพื้นที่สีเขียวที่ไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร

โดยร่างข้อบัญญัติ จะกำหนดให้ผู้ที่จะสร้าง ซ่อมแซม หรือต่อเติมอาคารใหม่ จะต้องมีพื้นที่สีเขียวคิดเป็น 50% ของพื้นที่ว่างนอกอาคาร ตามที่กฎหมายควบคุมอาคารกำหนดให้พื้นที่บ้านอยู่อาศัย 100 ตารางเมตร ต้องมีพื้นที่ว่าง 30 ตารางเมตร ส่วนตึกแถว สำนักงาน และทาวน์เฮ้าส์ กำหนดให้ 10% ของพื้นที่ต้องเป็นพื้นที่ว่าง

เช่น บ้านอยู่อาศัย 100 ตารางเมตร มีพื้นที่ว่าง 30 ตารางเมตร จะมีพื้นที่สีเขียว 15 ตารางเมตรนอกอาคาร ส่วนตึกแถว สำนักงาน และทาวน์เฮ้าส์ 100 ตารางเมตร จะมีพื้นที่ว่าง 10 ตารางเมตร ต้องมีพื้นที่สีเขียว 5 ตารางเมตรนอกอาคาร เป็นต้น

ซึ่งทั้งหมดนี้ จะมุ่งเน้นให้เกิดผลบังคับใช้กับอาคาร ที่อยู่อาศัย คอนโด และหมู่บ้านจัดสรร ที่จะมีการสร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะเป็นการกำหนดกฎหมายออกมาได้อย่างตรงประเด็น ไม่ต้องหาทางอ้อมเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวเหมือนที่ผ่านมาอีก

พุทธิพัชร์ระบุว่า แม้ที่ผ่านมาจะมีคำสั่งกทม. ให้เพิ่มพื้นที่สีเขียว แต่สำนักงานเขตต่างๆ ทำได้เพียงการไปปลูกต้นไม้ที่เกาะกลางถนน หรือปลูกไม้เลื้อยจนทางเดินเท้าเสียหาย หรือนำถุงต้นกล้าไปวางไว้ใต้สะพานทางด่วน ซึ่งไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด

ด้วยเหตุนี้ ตนและ ส.ก.พรรคก้าวไกล จึงขอร่วมกันเสนอร่างข้อบัญญัติพื้นที่สีเขียว ซึ่งจะเป็นการบังคับใช้ต่อเฉพาะผู้ที่สร้าง ซ่อมแซม ต่อเติมใหม่ ไม่รวมถึงตึกเก่าและอาคารที่มีอยู่แล้ว และไม่เป็นการขัดต่อกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน คือ พ.ร.บ.ผังเมืองรวม และ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร แต่อย่างใด เพราะเป็นการบังคับให้เพิ่มพื้นที่สีเขียวในพื้นที่ว่างที่แต่ละอาคารจะต้องมีอยู่แล้วตามที่กฎหมายระดับ พ.ร.บ. กำหนดไว้

กฎหมายเพิ่มพื้นที่สีเขียวฉบับนี้จะเป็นมาตรการเชิงรุก เพื่อปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานของพี่น้องประชาชน และจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้สมาชิกและสภาต่างๆ ทั่วประเทศไทยในการเสนอข้อบัญญัติเพื่อดูแลสิทธิขั้นพื้นฐานด้านสุขภาพของพี่น้องประชาชนทุกคน

พุทธิพัชร์ยืนยันต่อที่ประชุมว่า ข้อบัญญัติฉบับนี้ไม่ขัดต่อกฎหมายระดับ พ.ร.บ. แต่อย่างใด และเป็นการยกมาจาก พ.ร.บ. ทั้งหมด อย่างไรก็ตามที่เสนอในวันนี้เป็นเพียงร่างเท่านั้น หลังตั้งคณะกรรมการพิจารณาจะมีการปรับปรุงรายละเอียดโดยหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อนำเข้าสู่สภา กทม. ในวาระต่อไป

หลังลงมติ ได้มีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างข้อบัญญัติฯ จำนวน 17 คน มาดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมร่างข้อบัญญัติดังกล่าวต่อไป

Related posts

จัดเดิน-วิ่ง มินิมาราธอน ปีที่ 2 ส่งต่อขาเทียมช่วยผู้พิการยากไร้

‘COP-19’ ดันอาเซียน เป็นภูมิภาคปลอด หมอกควัน

5 ปีอุณภูมิโลกส่อทะลุ 1.5 องศา ไทยเร่งรับมือ 6 สาขาเสี่ยงระดับพื้นที่