อรรถพล’ รักษาการอธิบดีกรมอุทยานฯ เร่งสางแก้ปัญหา 8 ข้อ

‘อรรถพล’ รักษาการอธิบดีกรมอุทยานฯ เร่งสางแก้ปัญหา 8 ข้อ สัปดาห์หน้าคืนความเป็นธรรมให้จนท.ถูกโยกย้าย ย้ำทุกกระบวนการต้องโปร่งใส ยันไม่กดดัน เร่งเก็บแต้มการทำงานก่อนเกษียณอีก 3 ปี

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 26 ม.ค. ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานฯ สักการะสิ่งศักดิ์ และถวายเครื่องราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

จากนั้น นายอรรถพล จัดแถลงข่าวการเข้ารับตำแหน่งรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานฯ โดยกล่าวว่า ตนได้หารือกับนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ซึ่งได้กำชับให้มาช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยให้ทำทันทีและรวดเร็ว นอกจากนี้ได้หารือกับนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส. ถึงแนวนโยบายการทำงานในภาพรวม มีหลายเรื่องที่ต้องทำพร้อมๆ กัน เพราะทุกเรื่องต้องเร่งแก้ไขทั้งหมด

1.เรื่องผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม แต่ไม่จำเป็นว่าทุกคำสั่งต้องย้ายหมด เราจะวิเคราะห์เป็นรายบุคคล ที่ไม่ได้รับความไม่เป็นธรรมจริงๆ โดยมีคณะกรรมการของกรมอุทยานฯ ซึ่งมีตนเป็นประธาน และมีรองอธิบดีทั้ง 3 คน เป็นกรรมการ ช่วยกันดำเนินการเรื่องนี้ โดยจะรับฟังจากผู้ที่ได้รับผลกระทบ และช่วยเหลือในลักษณะโยกย้ายกลับที่เดิม หรือพื้นที่ใหม่ที่เหมาะสม คาดว่าช่วงสัปดาห์หน้าจะมีการปรับย้ายเลย และจะเปิดเผยต่อสาธารณชนให้รับรู้

2. เรื่องความโปร่งใสในการทำงาน ทุกกิจกรรมของงบประมาณต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ เงินรายได้อุทยานฯ หรือกระบวนการใดๆ ที่ล่อแหลมส่อทุจริต ต้องปิดช่องว่างให้หมด ตนจะคุมทุกอุทยาน โดยเฉพาะอุทยานเกรดเอ ที่มีรายได้เยอะ เพื่อจัดสรรเงินไม่ให้มีช่องโหว่ในการทุจริตได้

3.การดูแลพื้นที่อุทยานฯ ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจที่ต้องดูแลงานคุ้มครอง ปราบปราม จะต้องยกระดับความเข้มข้มในการดูแลพื้นที่ป่า และร่วมมือกับกรมป่าไม้ และกรมอื่นๆ เพื่อยกระดับความเข้มแข็ง ตนเข้าใจงานด้านการปราบปรามเป็นอย่างดี เพราะตนทำงานด้านนี้มาตั้งแต่ต้น เจ้าหน้าที่น่าเห็นใจ ทำงานด้วยอุดมการณ์ เพราะมีความเสี่ยงหลายด้าน ทั้งอิทธิพลท้องถิ่น เสี่ยงอันตราย ซึ่งเราจะยกระดับชุดปฏิบัติการให้เข้มแข็ง

4.การจัดสรรที่ดินเขตป่าที่เสื่อมสภาพ ปัญหาที่ดินทับซ้อน รวมทั้งการพัฒนาพื้นที่ป่าด้วย

5.เรื่องการป้องกันไฟป่าและหมอกควันในภาคเหนือ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ทุกอย่างต้องเจาะไปถึงเนื้องานจริงๆ หากงบประมาณไม่เพียงพอ ก็ขอสนับสนุนเครือข่ายประชาชน

6.ปรับปรุงโครงสร้างการทำงาน บริหารเชิงพื้นที่โดยใช้ระบบ Single command ปรับลดหน้าที่ที่ซ้ำซ้อนไม่ให้ทำงานหลายตำแหน่ง

7.การสร้างขวัญกำลังให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ ประชาชนไม่ไว้วางใจ ดีงนั้นเราจะกอบกู้ภาพลักษณ์ตรงนี้ขึ้นมาใหม่ ปรับค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าให้เหมาะสมกับการทำงานของพวกเขา ซึ่งจะมีการพิจารณาอย่างเร่งด่วน ในการสร้างขวัญกำลังใจ เราจะทำในสิ่งที่ดี อะไรที่ไม่ดีก็อย่าทำ เพื่อให้เจ้าหน้าที่รู้สึกอยากทำงาน ไม่ให้แบ่งแยก และหาคนดีมีความสามารถทำงานให้ตรงจุด

8.เรื่องช้างป่า โดยจะสนับสนุนกองทุนช้างป่าฯ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่า เพราะที่ผ่านมาการช่วยเหลือค่อนข้างล่าช้า จากนี้เราจะช่วยเหลืออย่างรวดเร็วมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้สังคมต่างจับจ้องมายังกรมอุทยานฯ การมารักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานฯ จะมีความกดดัน และถูกมองว่าเป็นเด็กใครจากฝั่งการเมืองหรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า ตอนนี้ตนมีอำนาจเต็มเสมือนเป็นอธิบดีกรมอุทยานฯ ซึ่งจะทำงานอย่างเต็มที่ เดินหน้าเร่งแก้ปัญหาทั้งหมด ตนทราบดีว่าตอนนี้สังคมต่างจับจ้องมาที่กรมอุทยานฯ แต่ตนก็ไม่ได้กดดันอะไร เพราะไม่ได้หวังถึงอนาคต ไม่เกี่ยวกับการเมืองว่าใครจะเข้ามาและจะโยกย้ายใคร อย่างไร ตนเป็นเด็กของทุกคน ดังนั้นการทำงานอีก 3 ปีก่อนเกษียณ จะเก็บแต้มการทำงานให้เต็มที่ เพื่อเป็นความภาคภูมิใจของตัวเอง ดีใจที่ได้รับหน้าที่เป็นรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานฯ เพราะเหมือนกลับมาทำงานตามสายเลือดของตัวเอง

เมื่อถามว่าจะมีส่วนในการสอบสวนคดีการรับเงินของอธิบดีกรมอุทยาฯ คนก่อน หรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า ในเรื่องคดีว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม เพราะกระทรวงได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงฯ ไปแล้ว คงไม่ไปก้าวล่วงในจุดนี้ แต่พร้อมจะสนับสนุนข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ ใครทำผิดก็ต้องรับผิดชอบไป

Related posts

เป้าหมาย NDC ความมุ่งมั่นของไทย ก้าวย่างสู่ Net Zero และโลกยั่งยืน

COP29 มุ่งมั่นเป้าหมายทางการเงินใหม่ ชาติพัฒนาแล้วจ่าย 1 แสนล้าน

‘เฉลิมชัย’ พาหมูเด้งบุก COP29 เปิด Thailand Pavilion โชว์แก้โลกเดือด