คลื่นความร้อนเป็นเหตุการณ์สืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสุดขั้วที่มีผลกระทบสูงสุดในแง่ของจำนวนผู้เสียชีวิตในทวีปยุโรป ฤดูร้อนในปีที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตสูงถึง 61,672 ราย โดยเฉพาะประเทศในแถบเมดิเตอร์เรเนียน เช่น กรีซ อิตาลี โปรตุเกส และสเปน
การศึกษาซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Nature Medicine โดยนักวิจัยจากสถาบันสุขภาพของยุโรปประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตจากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับคลื่นความร้อนมากกว่า 61,672 คน จากทั้งหมด 35 ประเทศในยุโรปตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนกันยายน 2565 ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดเป็น ประวัติการณ์ของยุโรป
นักวิจัยได้ใช้แบบจำลองทางระบาดวิทยาเพื่อวิเคราะห์จำนวนผู้เสียชีวิตที่อาจเชื่อมโยงโดยตรงกับความร้อนจากจำนวนผู้เสียชีวิตที่สูงผิดปกติ ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคมถึง 4 กันยายน 2565 โดยพบว่าอิตาลีดสียชีวิตสูงสุดที่ 18,010 ราย รองลงมาเป็นสเปน 11,324 ราย และเยอรมนี ที่ 8,173 ราย
เมื่อพิจราณาความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิสะสมและการเสียชีวิตจะพบว่าประเทศที่มีดินแดนติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เช่น กรีซ อิตาลี โปรตุเกส และสเปน มีอัตราการเสียชีวิตสูงสุดเมื่อพิจารณาจากขนาดประชากร
ฤดูร้อนในยุโรปช่วงเดือนมิถุนายน – กันยายน 2546 มีผู้เสียชีวิตจากความร้อนมากถึง 71,449 ราย จากเหตุการณ์ดังกล่าวจึงนำมาซึ่งการสร้างความตระหนักรู้ทางสังคมและการดำเนินกลยุทธ์การปรับตัวเพื่อปกป้องประชากรกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจและระบบทางเดินหายใจ ผู้หญิง และผู้ด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคม
แม้ว่าจะมีหลักฐานแสดงว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางกลยุทธ์ เตรียมพร้อมและตอบสนอง รวมไปถึงติดตั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้าเกี่ยวกับผลกระทบของคลื่นความร้อนต่อสุขภาพ แต่นักวิจัยกล่าวว่ายอดผู้เสียชีวิตในปีที่แล้วบ่งชี้ว่ากลยุทธ์เหล่านี้ยังขาดปะรสิทธิภาพ และเสริมสร้างอย่างเร่งด่วนทันต่อสถานการณ์ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง
ที่มา
- Jul 10,2023. Heat-related mortality in Europe during the summer of Nature Medicine
- Jul 11, 2023. 61,000 Europeans may have died in last summer’s heat waves, experts say. NBC